Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ทรายดูด ต้องทำยังไง เผยวิธีเอาตัวรอด

 

ทรายดูด ต้องทำยังไง เผยวิธีเอาตัวรอด





กรณีที่เป็นบ่อขนาดใหญ่ เรียกว่า บ่อทรายดูด มีความเป็นไปได้ 2 วิธี ที่จะเกิดได้

  • น้ำใต้ดินพุ่งทะลักจากพื้นใต้โลก ผสมเข้ากับเม็ดทรายข้างบน
  • แผ่นดินไหวการสั่นสะเทือนของแผ่นดินช่วยให้เกิดการผสมและคลุกเคล้าของน้ำกับทรายได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การผสมระหว่างดินทรายกับน้ำลดแรงเสียดทานระหว่างเม็ดทราย และเปลี่ยนสภาพของเม็ดทรายให้เป็นของเหลว เป็นเหตุให้ของหนักที่ตั้งอยู่บนทรายจมลงได้ หรือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกทั้งหลังที่ตั้งอยู่บริเวณที่มีน้ำใต้ดินผ่าน และเป็นดินทราย อาจจมทั้งหลังได้ กรณีโคลนถล่มก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อฝนตกลงมามาก ดินผสมเข้ากับน้ำซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นโคลน และไหลได้ง่าย


ทรายดูด เกิดขึ้นที่ไหนได้บ้าง

  • ริมตลิ่ง
  • ชายหาด
  • ริมทะเลสาบ
  • หนองบึง และที่เฉอะแฉะ

หากเดินบนทรายแห้ง ที่ชายหาดริมทะเล ความแห้งทำให้ทรายไหลตัวได้ยาก ทำให้เราสามารถยืนได้ แต่ถ้าเป็นชายหาดที่โดนน้ำ ซึ่งเม็ดทรายชุ่มน้ำ และเลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว



ทำยังไง หากโดนทรายดูด?


หากต้องเผชิญกับสถานการณ์ทรายดูด ไม่ต้องตกใจ เพราะร่างกายมนุษย์สามารถลอยอยู่เหนือทรายดูดได้ดีกว่าน้ำ ขอให้คุมสติ และไม่ต้องยกไม้ยกมือเหมือนว่ายน้ำ เพราะยิ่งทำให้จมลงไป


วิธีที่ถูกต้องคือ หงายศีรษะขึ้นฟ้า และเอนตัวนอนหงาย เหมือนนอนเล่น เพียงเท่านี้ก็จะไม่จม ก่อนจะค่อยๆเลื่อนตัวหาที่จับยึด เช่น ต้นไม้ หรือ ขอนไม้ ในบริเวณดังกล่าว

แต่ถ้าต้องเผชิญสถานการณ์ที่จมลงจนเกือบถึงเอว ต้องเลื่อนตัวช้าๆ ก้าวขาขึ้นมาอย่างช้าๆ อย่าก้าวเร็ว เพราะถ้าก้าวเร็ว ทำให้เกิดสูญญากาศที่เท้า ยิ่งทำให้โดนดูดจมลงเร็วขึ้นไปอีก ซึ่งการก้าวช้าช่วยลดความหนืด

ทั้งนี้การกางแขนให้มากที่สุด จะช่วยให้เพิ่มพื้นที่ผิว และช่วยให้ลอยอยู่ได้



https://youtu.be/NU9kz3YayZ4?si=iWPT0N6xWC9S-mIz



ทรายดูด (Quicksand)

ทรายดูด (Quicksand)

เราคงเคยเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่ตัวละครต้องจบชีวิตลงในบ่อทรายดูด แท้จริงแล้วทรายดูดมันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และมันดูดเราลงไปได้อย่างไร



ศาสตราจารย์แดเนียล บอนน์ นักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ยืนยันว่า คนเราไม่สามารถจมลงไปในทรายดูดได้อย่างสมบูรณ์ได้ แม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะติดอยู่ตรงนั้นไปตลอดกาลก็ตาม เพราะจากการทดลองและคำนวณแรงพยุงอย่างง่ายแล้ว จะพบทันทีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจมลงไปทั้งตัว (report in journal Nature)

ทรายดูด ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 4 อย่างคือ ทราย น้ำ โคลน และเกลือ เมื่ออยู่ในภาวะปกติไม่ได้ถูกรบกวน ส่วนประกอบทั้งสี่จะประกอบเป็นโครงสร้างที่เกือบจะเป็นของแข็งอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากมีสิ่งรบกวน เช่น มีใครเหยียบลงไปมันก็จะกลายเป็นของเหลวเกือบสมบูรณ์แบบเช่นกัน

บอนน์และทีมงาน ได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับทรายดูด โดยการวัดแรงหนืด ความต้านทานของไหล และความสามารถในการจมของทรายดูด และพบว่าคนซึ่งต่อให้ไม่รู้จักวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อจมลงในทรายดูดก็จะจมไปได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาจะไม่สามารถจมลงได้อีก

เรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับการทดลองทรายดูดไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะจมทรายดูดตาย แต่เป็นเรื่องที่ว่ามันต้องใช้พลังงานสูงมากในการถอดรองเท้าออกจากทรายดูด เพราะแรงที่เราจำเป็นต้องใช้การเอาขาของเราออกจากทรายดูดนั้นมากถึง 100,000 นิวตัน ซึ่งเป็นแรงที่มากพอๆกับที่ต้องใช้ในการยกรถยนต์คันหนึ่งขึ้นจากพื้น



ดังนั้น การที่จะฉุดลากคนขึ้นจากทรายดูด จะต้องใช้แรงมหาศาล แต่หากเราเผลอตกลงไปในบ่อทรายดูด ก็ไม่ต้องตกใจ ทำตัวให้กว้างในแนวขวาง เหมือนว่ายน้ำ ค่อยๆว่ายไป เราก็จะหลุดออกจากทรายดูดได้เอง



ทรายดูด มีลักษณะเป็นบ่อ ด้านบนเป็นทรายหรือดินที่ละเอียดเป็นเม็ดๆ ส่วนด่านล่างมีชั้นของน้ำแทรกอยู่ เมื่อทรายหรือดินด้านบนแห้งก็จะไม่ยืดหยุ่น มีความแข็งแรงพอที่จะเดินผ่านไปได้ แต่หากชั้นน้ำที่อยู่ด้านใต้เกิดแทรกซึมขึ้นมาที่ทรายหรือดินด้านบน จะเกิดความยืดหยุ่น หรือลื่นไหลจนเป็นของเหลว ทำให้เมื่อเดินไปเหยียบแล้วจะเกิดการยุบตัวลง ร่างกายของเราจึงหล่นตามลงไปด้วย และคล้ายกับถูกดูดเอาไว้ไม่ให้ขึ้นมาได้ง่ายๆ หากเรายิ่งดิ้นรนหรือตะเกียกตะกายขึ้นมาจากบ่อทรายดูด แรงที่เราดิ้นจะยิ่งทำให้ตัวของเราจมลง แต่หากเราปล่อยตัวนิ่งๆ ความหนาแน่นของร่างกายเราจะน้อยกว่าความหนาแน่นของบ่อทราย ทำให้ร่างกายเราลอยขึ้นได้เอง


ทรายดูดเกิดจากน้ำที่ผสมกับทราย ทำให้อนุภาคของทรายเกิดการเลื่อนตัวได้เร็วขึ้น ภาษาอังกฤษจึงเรียกทรายที่เลื่อนตัวอย่างรวดเร็วนี้ว่า Quicksand

เมื่อทรายชุ่มน้ำ มันจะเปลี่ยนสภาพของทรายให้เป็นของเหลวและไหลตัวได้ง่าย ในกรณีที่เป็นบ่อขนาดใหญ่ เรียกว่า บ่อทรายดูด แต่น้ำที่มากมายเพื่อทำให้ทรายจำนวนมหาศาลเป็นทรายดูดจะได้จากที่ไหน มีความเป็นไปได้2วิธีที่จะเกิดบ่อทรายดูดขนาดใหญ่ได้

  • น้ำใต้ดินที่พุ่งทะลักจากพื้นใต้โลก ผสมเข้ากับเม็ดทรายข้างบน
  • แผ่นดินไหวการสั่นสะเทือนของแผ่นดินช่วยให้เกิดการผสมและคลุกเคล้าของน้ำกับทรายได้เป็นอย่างดี

การผสมระหว่างดินทรายกับน้ำลดแรงเสียดทานระหว่างเม็ดทราย และเปลี่ยนสภาพของเม็ดทรายให้เป็นของเหลว ซึ่งเป็นเหตุให้ของหนักที่ตั้งอยู่บนทรายจมลงได้ หรือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกทั้งหลังที่ตั้งอยู่บริเวณที่มีน้ำใต้ดินผ่าน และเป็นดินทราย อาจจมทั้งหลังได้ กรณีโคลนถล่มก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อฝนตกลงมามาก ดินคลุกเคล้าเข้ากับน้ำซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นโคลน และไหลได้ง่าย


ต่อไปเป็นสถานที่ที่เกิดบ่อทรายดูด

  • ริมตลิ่ง
  • ชายหาด
  • ริมทะเลสาบ
  • หนองบึง และที่เฉอะแชะ

ให้ท่านทดลองไปเดินชายหาด ริมทะเล ถ้าท่านเดินอยู่บนทรายแห้ง ความแห้งจะทำให้ทรายไหลตัวได้ยาก ท่านจึงยืนอยู่ได้

แต่ถ้าท่านไปยืนชายหาดใกล้กับทะเล ยังไม่ถึงน้ำทะเล จะสังเกตว่าทรายเปียก และแน่นกว่าทรายแห้ง บริเวณนี้สามารถนำทรายมาก่อประสาททรายขึ้นได้

ส่วนบริเวณชายหาดที่โดนน้ำเต็มๆ เม็ดทรายจะชุ่มน้ำ และเลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว ในหน้าถัดไปถ้าท่านตกลงไปในทรายดูดจะหนีได้อย่างไร



ถ้าเผอิญท่านตกลงไปในบ่อทรายดูด ไม่ต้องตกใจ รอสักครู่ท่านจะได้ทราบเองว่าควรทำอย่างไร

ร่างกายของคนปกติ มีความหนาแน่นเฉลี่ย1กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ขณะที่บ่อทรายดูด มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำคือประมาณ2กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร นั่นก็หมายความว่า ท่านสามารถลอยอยู่เหนือทรายดูดได้ดีกว่าน้ำ ดังนั้นท่านไม่ต้องตกใจ คุมสติให้มั่น ไม่ต้องดิ้นรน ยกไม้ยกมือ เหมือนกับว่ายน้ำ เพราะมันจะทำให้ท่านยิ่งจมลงไป

ให้ท่านหงายศีรษะขึ้นฟ้า และเอนตัวนอนหงาย เหมือนนอนเล่น ท่านก็จะไม่จม ถัดไปค่อย ๆ เลื่อนตัวไปเพื่อจับยึดต้นไม้ หรือขอนไม้

แต่ถ้าตัวของท่านจมลงไปแล้วจนเกือบถึงเอวต้องใช้วิธีนี้

ท่านต้องเลื่อนตัวอย่างช้าๆ พยายามก้าวขาขึ้นมาที่ผิวของทรายอย่างช้าๆ อย่าก้าวเร็ว เพราะการก้าวเร็ว ทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นที่เท้า และจะดูดตัวท่านให้จมลงเร็วขึ้นไปอีก การก้าวอย่างช้าจะช่วยลดความหนืด ขณะเดียวกันให้ท่านเพิ่มพื้นที่ผิว โดยการกางแขนให้มากที่สุด ช่วยให้ท่านลอยอยู่ได้

ตอนนี้ถ้าท่านเจอกับทรายดูด ก็จะทราบแล้วว่าควรทำอย่างไร ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดที่น่าจะเป็นก็คือ ท่านจะต้องล้างเท้าครั้งใหญ่เท่านั้น







#Quicksand    ,   #ทรายดูด   ,   #วิธีเอาตัวรอดหากถูกทรายดูด

#เอาตัวรอดเมื่อติดโคลน  ,   #วิธีเอาตัวรอดจากบ่อทรายดูด  ,  #เอาเท้าออกจากทรายดูด  #โคลนดูด  ,  #ทรายดูด  ,   #ทรายดูด  ,  #Quicksand


CR  ::    https://youtu.be/yjDrpVvpJMM?si=S35FoXdKmqTPS1yq  ,   https://www.scimath.org/lesson-physics/item/7281-quicksand  ,    https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8004429

8 ความคิดเห็น:

  1. วิธีการ เอาตัวรอดจากทรายดูด

    คุณกำลังเดินอยู่ในป่าลึก คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วทันใดนั้นเอง เท้าของคุณก็ก้าวเข้าไปในทรายดูดและจมลงอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องมาจมโคลนตายที่นี่อย่างนั้นหรือ? ก็ไม่เชิงหรอก จริงๆ แล้วทรายดูดไม่ได้อันตรายมากเหมือนในภาพยนตร์ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทรายและโคลนทุกที่สามารถกลายเป็นทรายดูดชั่วคราวได้ หากมันชุ่มน้ำมากพอหรือเกิดการสั่นสะเทือน เช่นเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ขั้นตอนด้านล่างนี้คือวิธีการเอาตัวรอดเมื่อคุณกำลังจมลงไปในทรายดูด

    เอาเท้าออกจากทรายดูด

    1. ทิ้งของทุกอย่าง. หากคุณก้าวเข้าไปในทรายดูดระหว่างที่กำลังสะพายกระเป๋าเป้หรือถือของหนักอยู่ ให้คุณถอดกระเป๋าออกหรือทิ้งของที่ถืออยู่ทันที เพราะว่าหากตัวของคุณเบาลง คุณก็จะไม่จมลงไปทั้งตัว นอกเสียจากว่าคุณจะตื่นตกใจและดิ้นไปมา หรือมีอะไรถ่วงน้ำหนัก[1]
    หากคุณสามารถถอดรองเท้าได้ ก็จงถอดมันออก รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าแบนและไม่ยืดหยุ่น (เช่น รองเท้าบูท) จะสร้างแรงดูดเมื่อคุณพยายามดึงมันออกจากทรายดูด หากคุณรู้ว่าจะต้องไปในที่ที่มีโอกาสเจอทรายดูดสูง ให้คุณเปลี่ยนรองเท้าบูท เดินเท้าเปล่า หรือใส่รองเท้าที่คุณจะสามารถถอดออกได้ง่าย

    2. เคลื่อนตัวเป็นแนวตรง. หากคุณรู้สึกว่าเท้าของคุณติด ให้รีบถอยหลังออกสองก้าวก่อนที่จะโดยทรายดูดรั้งไว้ ปกติแล้วเนื้อโคลนจะใช้เวลาเป็นนาทีกว่าจะเริ่มเหลว ซึ่งหมายความว่า วิธีที่ดีที่สุดในการไม่ทำให้ตัวเองติดอยู่ในทรายดูด ก็คือระวังไม่ให้เข้าไปติดตั้งแต่แรก[2]
    หากเท้าของคุณติด อย่างุ่มง่ามก้าวต่อเพื่อเอาตัวเองออกจากทรายดูด การก้าวต่อไปข้างหน้าอาจจะทำให้สามารถดึงเท้าออกมาได้ข้างหนึ่งก็จริง แต่ก็จะทำให้เท้าอีกข้างจมลงไปลึกกว่าเดิม ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณออกจากทรายดูดทั้งตัวได้ยากขึ้นไปอีก

    3. เอนหลัง. นั่งลงและเอนหลังหากเท้าของคุณจมลงอย่างรวดเร็ว การเพิ่มช่องว่างที่เท้าจะช่วยให้เท้าของคุณหลุดออกมาได้ โดยการลดแรงดันที่เกิดขึ้น และทำให้เท้าลอยขึ้นได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าช่องว่างตรงเท้าหลวมมากขึ้นแล้ว ให้กลิ้งไปด้านข้างออกจากทรายดูด ตัวคุณจะเลอะโคลน แต่นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุดในการเอาตัวรอด


    ตอบลบ
  2. 4. จงใจเย็น. หากคุณติดอยู่ในทรายดูด การดิ้นไปมาอย่างตื่นกลัวจะยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จงขยับตัวให้ช้าเข้าไว้ การขยับตัวช้าๆ จะเป็นการลดแรงสั่นสะเทือน การขยับตัวอย่างรวดเร็วจะยิ่งเพิ่มแรงสั่น ทำให้ดินกลายเป็นทรายดูดมากขึ้น[3]
    สิ่งสำคัญที่ควรจำไว้ก็คือ ทรายดูดสามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของคุณแบบที่คุณคาดไม่ถึงได้ หากคุณขยับตัวอย่างช้าๆ คุณก็จะสามารถหยุดการกระทำที่ส่งผลเสียได้อย่างทันท่วงที สังเกตผลจากการขยับตัวของคุณและพยายามอย่าทำให้ตัวเองจมลงลึกกว่าเดิม คุณจะต้องใจเย็นๆ คุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นนาทีหรืออาจจะถึงชั่วโมงในการออกจากทรายดูดอย่างช้าๆ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของทรายดูดที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ


    ออกจากทรายดูด

    1. ผ่อนคลาย. ปกติแล้วทรายดูดจะลึกไม่มาก แต่ถ้าคุณเข้าไปยังส่วนที่ลึกมาก คุณก็อาจจมลงทรายดูดอย่างเร็วจนถึงช่วงเอวหรืออกได้ หากคุณตื่นตกใจคุณก็จะจมเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณสงบใจและผ่อนคลาย คุณก็จะสามารถลอยตัวได้[4]
    หายใจเข้าลึกๆ การหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้แค่ช่วยให้ใจสงบลงเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณลอยตัวได้ง่ายขึ้นด้วย สูดลมหายใจเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ตราบใดที่ปอดของคุณยังเต็มไปด้วยอากาศ คุณก็จะไม่จม

    2. เอนหลังและเริ่ม "ว่าย". หากตัวของคุณจมลงจนถึงเอวหรือสูงกว่านั้น ให้คุณเอนหลังลงไป ยิ่งคุณกระจายน้ำหนักออกไปมากเท่าไร ตัวของคุณก็จะจมลงได้ยากขึ้น ใช้หลังลอยตัวในขณะที่ค่อยๆ ยกขาออก เมื่อขาของคุณหลุดออกมาได้แล้ว คุณก็จะสามารถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ได้ โดยการกวาดแขนอย่างช้าๆ เพื่อเคลื่อนตัวไปด้านหลัง คล้ายกับกำลังว่ายน้ำอยู่ เมื่อคุณเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฝั่งแล้ว คุณก็จะสามารถกลิ้งตัวออกจากทรายดูดได้

    3. ใช้ไม้เท้า. พกไม้เท้าเดินป่าไปด้วยทุกครั้งที่คุณไปในที่ที่มีโอกาสจะเจอทรายดูด ทันทีที่ข้อเท้าของคุณจมลง ให้วางไม้บนพื้นผิวของทรายดูดในแนวตรงไปด้านหลัง เอนตัวลงบนไม้เท้า ไม่นานคุณก็จะทรงตัวบนทรายดูดได้และก็จะหยุดจม ขยับไม้เท้าไปยังตำแหน่งใหม่ใต้เอว ไม้เท้าจะกันไม่ให้เอวของคุณจมลง คราวนี้คุณก็จะสามารถขยับขาข้างหนึ่งได้อย่างอิสระ ก่อนจะขยับขาอีกข้างตาม
    ทำหลังให้ตรงโดยที่แขนกับขาสัมผัสกับทรายดูด และใช้ไม้เท้านำทางไป ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปด้านข้างตามแนวไม้เท้าจนถึงฝั่ง

    4. พักเป็นระยะ. การพยายามออกจากทรายดูดอาจจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย คุณจึงควรขยับอย่างรอบคอบ และประหยัดพลังงานก่อนที่คุณจะเหนื่อยจนเกินไป
    คุณจะต้องขยับตัวแต่ละครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะแรงดันจากทรายจะสามารถหยุดการไหลเวียนของเลือด ทำอันตรายให้แก่เส้นประสาท ทำให้ขาชา และทำให้คุณไม่สามารถออกจากทรายดูดได้หากไม่มีคนช่วย
    ต่างกับในภาพยนตร์และในโทรทัศน์ การติดอยู่ในทรายดูดไม่ใช่สาเหตุหลักของการเสียชีวิต แต่เป็นเพราะระดับน้ำในทรายดูดที่คนจมลงไปต่างหาก


    ตอบลบ
  3. หลีกเลี่ยงทรายดูด

    1. ระวังพื้นที่ที่อาจมีทรายดูดอยู่. ทรายดูดเป็นแค่ประเภทหนึ่งของดิน มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มีน้ำผสมรวมกันกับทราย ทำให้เนื้อดินเหลวเป็นพิเศษ การเรียนรู้วิธีดูว่าบริเวณไหนอาจจะมีทรายดูดอยู่บ้างคือวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงทรายดูด ทรายดูดมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ดังนี้:[7]
    - ชายฝั่งที่น้ำพัดผ่าน
    - หนองบึงและแอ่งน้ำ
    - ใกล้ชายฝั่งทะเลสาบ
    - ใกล้น้ำพุใต้ดิน

    2. สังเกตระลอกคลื่น. ระวังพื้นดินที่ดูไม่มั่นคงหรือเปียกชุ่ม หรือพื้นทรายที่มี "ระลอกคลื่น" ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ คุณจะเห็นน้ำซึมออกมาจากใต้ทราย ซึ่งจะทำให้คุณสังเกตเห็นทรายดูดได้ง่ายขึ้นเมื่อกำลังเดินป่าอยู่

    3. ลองใช้ไม้เท้าแตะพื้นดินข้างหน้าดู. พกไม้เท้าที่แข็งแรงไปด้วยทุกครั้ง เพื่อเอาไว้ใช้เวลาที่คุณติดอยู่ในทรายดูด และใช้แตะพื้นดินที่อยู่ตรงหน้า ไม้เท้าจะสามารถช่วยคุณจากทรายดูดและทำให้การเดินป่าของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้นได้




    ตอบลบ
  4. เคล็ดลับ

    หากคุณไปเดินป่ากับคนอื่นในพื้นที่ที่อาจจะเจอทรายดูดได้ ให้คุณนำเชือกที่ยาวอย่างน้อย 20 ฟุต (6.1 เมตร) ไปด้วย เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งติดอยู่ในทรายดูด อีกคนจะได้ยืนบนฝั่งและช่วยดึงเพื่อนร่วมทางออกจากทรายดูดได้ แต่ถ้าคนที่ยืนอยู่บนฝั่งไม่แข็งแรงพอที่จะช่วยดึงได้ ก็ให้ผูกเชือกไว้กับต้นไม้หรือสิ่งที่มั่นคงแทน คนที่ติดอยู่ในทรายดูดจะได้ใช้ดึงเพื่อพาตัวเองขึ้นฝั่ง
    ผ่อนคลายและพยายามต่อไปโดยอย่าทำให้ตัวเองเครียด


    คำเตือน
    - การเดินป่าด้วยเท้าเปล่าอาจจะไม่สามารถช่วยให้คุณหลุดจากทรายดูดได้ และยังทำให้พยาธิเช่นพยาธิปากขอและพยาธิตัวกลมไชผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นด้วย


    สิ่งของที่ใช้

    - ไม้เท้าที่แข็งแรง
    - เชือก
    - อุปกรณ์ช่วยลอยตัว


    ตอบลบ
  5. เผยวิธีเอาตัวรอดหากถูกทรายดูดต้องทำยังไง

    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ (สสวท.) ได้เคยออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ทรายดูด ไว้ว่า ทรายดูด เกิดจากน้ำที่ผสมกับทราย ทำให้อนุภาคของทรายเกิดการเลื่อนตัวได้เร็วขึ้น เมื่อทรายชุ่มน้ำ จะเปลี่ยนสภาพของทรายให้เป็นของเหลวและไหลตัวได้ง่าย

    กรณีที่เป็นบ่อขนาดใหญ่ เรียกว่า บ่อทรายดูด มีความเป็นไปได้ 2 วิธี ที่จะเกิดได้

    น้ำใต้ดินพุ่งทะลักจากพื้นใต้โลก ผสมเข้ากับเม็ดทรายข้างบน
    แผ่นดินไหวการสั่นสะเทือนของแผ่นดินช่วยให้เกิดการผสมและคลุกเคล้าของน้ำกับทรายได้เป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ การผสมระหว่างดินทรายกับน้ำลดแรงเสียดทานระหว่างเม็ดทราย และเปลี่ยนสภาพของเม็ดทรายให้เป็นของเหลว เป็นเหตุให้ของหนักที่ตั้งอยู่บนทรายจมลงได้ หรือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกทั้งหลังที่ตั้งอยู่บริเวณที่มีน้ำใต้ดินผ่าน และเป็นดินทราย อาจจมทั้งหลังได้ กรณีโคลนถล่มก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อฝนตกลงมามาก ดินผสมเข้ากับน้ำซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นโคลน และไหลได้ง่าย

    ทรายดูด เกิดขึ้นที่ไหนได้บ้าง

    ริมตลิ่ง

    ชายหาด

    ริมทะเลสาบ

    หนองบึง และที่เฉอะแฉะ

    หากเดินบนทรายแห้ง ที่ชายหาดริมทะเล ความแห้งทำให้ทรายไหลตัวได้ยาก ทำให้เราสามารถยืนได้ แต่ถ้าเป็นชายหาดที่โดนน้ำ ซึ่งเม็ดทรายชุ่มน้ำ และเลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว

    ทำยังไง หากโดนทรายดูด?

    หากต้องเผชิญกับสถานการณ์ทรายดูด ไม่ต้องตกใจ เพราะร่างกายมนุษย์สามารถลอยอยู่เหนือทรายดูดได้ดีกว่าน้ำ ขอให้คุมสติ และไม่ต้องยกไม้ยกมือเหมือนว่ายน้ำ เพราะยิ่งทำให้จมลงไป

    วิธีที่ถูกต้องคือ หงายศีรษะขึ้นฟ้า และเอนตัวนอนหงาย เหมือนนอนเล่น
    เพียงเท่านี้ก็จะไม่จม ก่อนจะค่อยๆเลื่อนตัวหาที่จับยึด เช่น ต้นไม้ หรือ ขอนไม้ ในบริเวณดังกล่าว

    แต่ถ้าต้องเผชิญสถานการณ์ที่จมลงจนเกือบถึงเอว ต้องเลื่อนตัวช้าๆ ก้าวขาขึ้นมาอย่างช้าๆ อย่าก้าวเร็ว เพราะถ้าก้าวเร็ว ทำให้เกิดสูญญากาศที่เท้า ยิ่งทำให้โดนดูดจมลงเร็วขึ้นไปอีก ซึ่งการก้าวช้าช่วยลดความหนืด

    ทั้งนี้การกางแขนให้มากที่สุด จะช่วยให้เพิ่มพื้นที่ผิว และช่วยให้ลอยอยู่ได้

    ทรายดูด (Quicksand)


    ตอบลบ
  6. ทรายดูดเกิดจากอะไร มีโอกาสถึงตาย วิธีเอาตัวรอด

    ทรายดูดเกิดจากอะไร

    ทรายดูดเกิดจากน้ำ โคลน และทรายผสมกันจนกลายเป็นของเหลวที่มีความหนืดสูง เมื่อมีคนหรือสัตว์เหยียบลงไปก็จะจมลงไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักของการเกิดทรายดูดคือน้ำใต้ดินที่ไหลทะลักขึ้นมาผสมกับทรายที่อยู่ด้านบน น้ำใต้ดินจะแทรกซึมเข้าไประหว่างเม็ดทราย ทำให้เม็ดทรายแยกออกจากกัน และเกิดเป็นช่องว่าง ช่องว่างเหล่านี้ก็จะดูดซับน้ำเข้าไปอีก ส่งผลให้ทรายดูดมีความหนืดสูงขึ้น เมื่อคนตกลงไป เท้าก็จะจมแทรกถึงลงไปในช่องว่างทรายที่ถูกแยกออก แล้วยากต่อการที่จะดึงตัวขึ้นมา


    นอกจากน้ำใต้ดินแล้ว แผ่นดินไหวก็สามารถทำให้เกิดทรายดูดได้เช่นกัน แผ่นดินไหวจะทำให้พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือน น้ำใต้ดินก็จะไหลทะลักขึ้นมาได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ทรายดูดเกิดขึ้น

    สถานที่ใดมีทรายดูดบ้าง
    ทรายดูดสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทย ทรายดูดมักพบอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล แม่น้ำ ลำธาร และบริเวณที่มีน้ำใต้ดินไหลผ่าน มีดินโคลนหรือดินเหนียวอ่อนอยู่ใต้พื้นดิน

    วิธีเอาตัวรอดจากทรายดูด
    หากใครเผลอเหยียบลงไปในทรายดูด ให้ตั้งสติดีๆ อย่าดิ้นรนหรือตะเกียกตะกาย เพราะจะทำให้ตัวจมลงไปอย่างรวดเร็ว ควรนอนหงายราบไปกับพื้นทราย กางแขนขาออกให้กว้าง จะช่วยให้ตัวลอยตัวอยู่เหนือทรายได้ จากนั้นค่อยๆ คลานหรือว่ายน้ำออกจากบริเวณนั้น

    วิธีการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในทรายดูดนั้น สามารถทำได้ดังนี้

    - ห้ามดึงคนที่ติดอยู่ขึ้นมาจากด้านบน เพราะจะทำให้ตัวคนจมลงไปอย่างรวดเร็ว
    - ควรใช้เชือกหรือวัสดุอื่นๆ ผูกติดกับตัวคนที่ติดอยู่ จากนั้นค่อยๆ ดึงออกมาจากบริเวณนั้นในแนวราบ
    - หากคนติดอยู่ใกล้กับขอบบ่อทราย ควรใช้ไม้หรือวัสดุอื่นๆ เขี่ยทรายออกให้ตัวคนลอยตัวขึ้นมา
    - หากเหยียบลงไปในทรายดูดแล้ว ควรนอนหงายราบไปกับพื้นทราย กางแขนขาออกให้กว้าง จะช่วยให้ตัวลอยตัวอยู่เหนือทรายได้


    ทำไมถูกทรายดูดแล้วอันตรายถึงชีวิต

    การถูกทรายดูดแล้วเสียชีวิตมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ประการ คือ 1. จมน้ำ 2. ขาดแรงพยุง

    การจมน้ำ เมื่อตกลงไปในทรายดูด หากพื้นที่ตรงนั้นมีน้ำท่วมขัง ร่างกายจะจมลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทรายดูดมีความหนืดสูง ยากที่จะดิ้นตัวขึ้นมา ส่งผลให้ร่างกายขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต

    การขาดแรงพยุง เมื่อร่างกายจมลงไปในทรายดูด น้ำหนักตัวจะกดทับทรายดูด ทำให้ทรายดูดเกิดการยุบตัว ส่งผลให้ร่างกายขาดแรงพยุงและจมลงไปเรื่อยๆ สำลักทรายจนขาดอากาศเสียชีวิต



    ตอบลบ
  7. ทรายดูด (Quicksand)

    เราคงเคยเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่ตัวละครต้องจบชีวิตลงในบ่อทรายดูด แท้จริงแล้วทรายดูดมันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และมันดูดเราลงไปได้อย่างไร

    ศาสตราจารย์แดเนียล บอนน์ นักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ยืนยันว่า คนเราไม่สามารถจมลงไปในทรายดูดได้อย่างสมบูรณ์ได้ แม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะติดอยู่ตรงนั้นไปตลอดกาลก็ตาม เพราะจากการทดลองและคำนวณแรงพยุงอย่างง่ายแล้ว จะพบทันทีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจมลงไปทั้งตัว (report in journal Nature)

    ทรายดูด ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 4 อย่างคือ ทราย น้ำ โคลน และเกลือ เมื่ออยู่ในภาวะปกติไม่ได้ถูกรบกวน ส่วนประกอบทั้งสี่จะประกอบเป็นโครงสร้างที่เกือบจะเป็นของแข็งอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากมีสิ่งรบกวน เช่น มีใครเหยียบลงไปมันก็จะกลายเป็นของเหลวเกือบสมบูรณ์แบบเช่นกัน

    บอนน์และทีมงาน ได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับทรายดูด โดยการวัดแรงหนืด ความต้านทานของไหล และความสามารถในการจมของทรายดูด และพบว่าคนซึ่งต่อให้ไม่รู้จักวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อจมลงในทรายดูดก็จะจมไปได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาจะไม่สามารถจมลงได้อีก

    เรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับการทดลองทรายดูดไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะจมทรายดูดตาย แต่เป็นเรื่องที่ว่ามันต้องใช้พลังงานสูงมากในการถอดรองเท้าออกจากทรายดูด เพราะแรงที่เราจำเป็นต้องใช้การเอาขาของเราออกจากทรายดูดนั้นมากถึง 100,000 นิวตัน ซึ่งเป็นแรงที่มากพอๆกับที่ต้องใช้ในการยกรถยนต์คันหนึ่งขึ้นจากพื้น

    ดังนั้น การที่จะฉุดลากคนขึ้นจากทรายดูด จะต้องใช้แรงมหาศาล แต่หากเราเผลอตกลงไปในบ่อทรายดูด ก็ไม่ต้องตกใจ ทำตัวให้กว้างในแนวขวาง เหมือนว่ายน้ำ ค่อยๆว่ายไป เราก็จะหลุดออกจากทรายดูดได้เอง

    ทรายดูด มีลักษณะเป็นบ่อ ด้านบนเป็นทรายหรือดินที่ละเอียดเป็นเม็ดๆ ส่วนด่านล่างมีชั้นของน้ำแทรกอยู่ เมื่อทรายหรือดินด้านบนแห้งก็จะไม่ยืดหยุ่น มีความแข็งแรงพอที่จะเดินผ่านไปได้ แต่หากชั้นน้ำที่อยู่ด้านใต้เกิดแทรกซึมขึ้นมาที่ทรายหรือดินด้านบน จะเกิดความยืดหยุ่น หรือลื่นไหลจนเป็นของเหลว ทำให้เมื่อเดินไปเหยียบแล้วจะเกิดการยุบตัวลง ร่างกายของเราจึงหล่นตามลงไปด้วย และคล้ายกับถูกดูดเอาไว้ไม่ให้ขึ้นมาได้ง่ายๆ หากเรายิ่งดิ้นรนหรือตะเกียกตะกายขึ้นมาจากบ่อทรายดูด แรงที่เราดิ้นจะยิ่งทำให้ตัวของเราจมลง แต่หากเราปล่อยตัวนิ่งๆ ความหนาแน่นของร่างกายเราจะน้อยกว่าความหนาแน่นของบ่อทราย ทำให้ร่างกายเราลอยขึ้นได้เอง


    ตอบลบ
  8. ทรายดูดเกิดจากน้ำที่ผสมกับทราย ทำให้อนุภาคของทรายเกิดการเลื่อนตัวได้เร็วขึ้น ภาษาอังกฤษจึงเรียกทรายที่เลื่อนตัวอย่างรวดเร็วนี้ว่า Quicksand

    เมื่อทรายชุ่มน้ำ มันจะเปลี่ยนสภาพของทรายให้เป็นของเหลวและไหลตัวได้ง่าย ในกรณีที่เป็นบ่อขนาดใหญ่ เรียกว่า บ่อทรายดูด แต่น้ำที่มากมายเพื่อทำให้ทรายจำนวนมหาศาลเป็นทรายดูดจะได้จากที่ไหน มีความเป็นไปได้2วิธีที่จะเกิดบ่อทรายดูดขนาดใหญ่ได้

    น้ำใต้ดินที่พุ่งทะลักจากพื้นใต้โลก ผสมเข้ากับเม็ดทรายข้างบน
    แผ่นดินไหวการสั่นสะเทือนของแผ่นดินช่วยให้เกิดการผสมและคลุกเคล้าของน้ำกับทรายได้เป็นอย่างดี
    การผสมระหว่างดินทรายกับน้ำลดแรงเสียดทานระหว่างเม็ดทราย และเปลี่ยนสภาพของเม็ดทรายให้เป็นของเหลว ซึ่งเป็นเหตุให้ของหนักที่ตั้งอยู่บนทรายจมลงได้ หรือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกทั้งหลังที่ตั้งอยู่บริเวณที่มีน้ำใต้ดินผ่าน และเป็นดินทราย อาจจมทั้งหลังได้ กรณีโคลนถล่มก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อฝนตกลงมามาก ดินคลุกเคล้าเข้ากับน้ำซึ่งจะเปลี่ยนสภาพเป็นโคลน และไหลได้ง่าย

    ต่อไปเป็นสถานที่ที่เกิดบ่อทรายดูด

    ริมตลิ่ง
    ชายหาด
    ริมทะเลสาบ
    หนองบึง และที่เฉอะแชะ
    ให้ท่านทดลองไปเดินชายหาด ริมทะเล ถ้าท่านเดินอยู่บนทรายแห้ง ความแห้งจะทำให้ทรายไหลตัวได้ยาก ท่านจึงยืนอยู่ได้

    แต่ถ้าท่านไปยืนชายหาดใกล้กับทะเล ยังไม่ถึงน้ำทะเล จะสังเกตว่าทรายเปียก และแน่นกว่าทรายแห้ง บริเวณนี้สามารถนำทรายมาก่อประสาททรายขึ้นได้

    ส่วนบริเวณชายหาดที่โดนน้ำเต็มๆ เม็ดทรายจะชุ่มน้ำ และเลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว ในหน้าถัดไปถ้าท่านตกลงไปในทรายดูดจะหนีได้อย่างไร



    ถ้าเผอิญท่านตกลงไปในบ่อทรายดูด ไม่ต้องตกใจ รอสักครู่ท่านจะได้ทราบเองว่าควรทำอย่างไร

    ร่างกายของคนปกติ มีความหนาแน่นเฉลี่ย1กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ขณะที่บ่อทรายดูด มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำคือประมาณ2กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร นั่นก็หมายความว่า ท่านสามารถลอยอยู่เหนือทรายดูดได้ดีกว่าน้ำ ดังนั้นท่านไม่ต้องตกใจ คุมสติให้มั่น ไม่ต้องดิ้นรน ยกไม้ยกมือ เหมือนกับว่ายน้ำ เพราะมันจะทำให้ท่านยิ่งจมลงไป

    ให้ท่านหงายศีรษะขึ้นฟ้า และเอนตัวนอนหงาย เหมือนนอนเล่น ท่านก็จะไม่จม ถัดไปค่อย ๆ เลื่อนตัวไปเพื่อจับยึดต้นไม้ หรือขอนไม้

    แต่ถ้าตัวของท่านจมลงไปแล้วจนเกือบถึงเอวต้องใช้วิธีนี้

    ท่านต้องเลื่อนตัวอย่างช้าๆ พยายามก้าวขาขึ้นมาที่ผิวของทรายอย่างช้าๆ อย่าก้าวเร็ว เพราะการก้าวเร็ว ทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นที่เท้า และจะดูดตัวท่านให้จมลงเร็วขึ้นไปอีก การก้าวอย่างช้าจะช่วยลดความหนืด ขณะเดียวกันให้ท่านเพิ่มพื้นที่ผิว โดยการกางแขนให้มากที่สุด ช่วยให้ท่านลอยอยู่ได้

    ตอนนี้ถ้าท่านเจอกับทรายดูด ก็จะทราบแล้วว่าควรทำอย่างไร ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดที่น่าจะเป็นก็คือ ท่านจะต้องล้างเท้าครั้งใหญ่เท่านั้น


    ตอบลบ