16 ประโยชน์ของกาแฟดำ
1. กาแฟดำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
การดื่มกาแฟดำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายให้ดียิ่งขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมเหล่าฟิตเนสเทรนเนอร์ถึงแนะนำให้คุณดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกาย เพราะกาแฟดำจะช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีนในเลือด ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายอึดทนต่อการออกกำลังกายที่หนักได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งกาแฟดำยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
2. กาแฟดำดีต่อตับ
ตับถือเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดอวัยวะหนึ่งของร่างกาย เพราะว่าตับมีหน้าที่สำคัญๆ หลายประการและคุณทราบหรือไม่ว่า กาแฟดำมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบ ลดไขมันสะสมที่ตับ และลดการเกิดโรคตับแข็งจากการดื่มสุรา นอกจากนี้ 80% ของผู้ที่ดื่มกาแฟดำ 4 แก้วขึ้นไปในทุก ๆ วัน มีอัตราการเกิดโรคที่เกี่ยวกับตับต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟดำ การดื่มกาแฟดำ 2 แก้วเป็นประจำทุกวันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกมีความสุข อีกทั้งยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย หากต้องการเพลิดเพลินไปกับการดื่มกาแฟอเมริกาโน่ ทั้งเมนูอเมริกาโน่เย็นและร้อน ที่มีรสชาตินุ่มละมุน แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำกาแฟอเมริกาโน่ จากกาแฟแคปซูล Cosi, Volluto, Capriccio, Nicaragua หรือ India ค้นหากาแฟอเมริกาโน่ชนิดแคปซูลที่เหมาะกับคุณ
3. กาแฟดำช่วยลดความเครียด
การทำงานที่แสนตึงเครียดในแต่ละวันอาจบั่นทอนสุขภาพของคุณในระยะยาว การดื่มกาแฟดำจะช่วยให้อารมณ์ของคุณคงที่ กระตุ้นระบบประสาท และเพิ่มการสร้างสารโดพามีน สารแห่งความสุข
4. กาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน
กาแฟดำแบบที่มีคาเฟอีนและไม่มีคาเฟอีน (ดีแคฟ) มีประโยชน์ในแง่ของการช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน เพราะกาแฟดำจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยเพิ่มการสร้างอินซูลิน กาแฟแคปซูลดีแคฟเป็นความเหมือนที่แตกต่างกับกาแฟแคปซูลปกติ อย่าง Volluto Decaffeinato, Arpeggio Decaffeinato และ Ristretto Decaffeinato จาก Nespresso ที่เราได้สกัดคาเฟอีนออกเพื่อที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนแก้วโปรดได้ตลอดวัน ค้นหากาแฟดีแคฟชนิดแคปซูลที่เหมาะกับคุณ
5. กาแฟดำช่วยลดน้ำหนัก
การดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกาย 30 นาทีจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ยาวนานขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง 50% นอกจากนี้การดื่มกาแฟดำยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทซึ่งจะส่งสัญญาณบอกร่างกายให้ทำลายเซลล์ไขมันและดึงไปใช้เป็นพลังงาน
6. กาแฟดำอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยช์ของกาแฟดำอีกข้อที่สำคัญ คือ กาแฟดำเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ และยังอุดมไปด้วยวิตามิน B2, B3, B5, แมงกานีส, โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
7. กาแฟดำดีต่อหัวใจและหลอดเลือด
การดื่มกาแฟดำวันละ 1-2 แก้วจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้
8. กาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง
กาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในบางชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก เพราะว่าสารในกาแฟดำจะช่วยลดการติดเชื้อในร่างกายอันเป็นสาเหตุของการเกิดเนื้อร้าย
การศึกษาล่าสุดโดยโครงการ Monographs ของสำนักงานกลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งขององค์การอนามัยโลก (IARC) ได้ระบุว่าไม่มีหลักฐานใดในการสนับสนุนความเกี่ยวข้องระหว่างกาแฟและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็ง
ตามข้อมูลอิเพดิมิโอโลจิคัลล่าสุด วงการวิทยาศาสตร์ตกลงที่การบริโภคกาแฟอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่น้อยลงโดยรวม โดยเฉพาะในมะเร็งตับและมะเร็งลำไส้ใหญ่
9. กาแฟดำทำให้ฉลาดขึ้น
อีกหนึ่งประโยชน์ของกาแฟดำที่คุณอาจจะยังไม่รู้ คือในกาแฟดำมีสารกระตุ้นจิตประสาทซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับร่างกายแล้วจะช่วยเพิ่มพลังงาน ความสามารถในการจดจำ และทำให้คุณฉลาดขึ้น
10. กาแฟดำช่วยทำความสะอาดช่องท้อง
กาแฟดำเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาที่คุณดื่มกาแฟดำ แบคทีเรียหรือสารพิษต่าง ๆ ถึงถูกกำจัดออกมาทางปัสสาวะอย่างง่ายดาย
11. กาแฟดำช่วยให้ดูอ่อนเยาว์
การดื่มกาแฟดำโดยไม่เติมน้ำตาลลงไปจะช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์ทั้งร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ กาแฟดำยังช่วยป้องกันโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย
12. กาแฟดำช่วยป้องกันการเป็นโรคเกาต์
จากงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟดำมากกว่า 4 แก้วต่อวันจะสามารถลดการเกิดโรคเกาต์ได้ถึง 57% โดยกาแฟดำจะช่วยลดระดับกรดยูริค และยังช่วยบรรเทาอาการของผู้ที่เป็นโรคเกาต์ได้
13 . กาแฟดำช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน G-CSF ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์
การดื่มกาแฟดำอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ เนื่องจากกาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง แต่การดื่มกาแฟดำไม่สามารถใช้แทนการรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาโรคอย่างเหมาะสม
14. กาแฟดำช่วยป้องกันโรคหอบ
การดื่มกาแฟดำอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้ในบางคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่มีการวิจัยพบว่ากาแฟดำมีส่วนช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเพิ่มความตึงเครียดหรือไม่สามารถนอนหลับได้ ดังนั้น ควรดื่มกาแฟในปริมาณที่สมดุลย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
15. กาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
การดื่มกาแฟดำอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ การดื่มกาแฟดำมีสารช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกและเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
16. กาแฟดำช่วยลดอาการเมาค้างและปวดศีรษะ
การดื่มกาแฟดำอาจช่วยลดอาการเมาค้างและปวดศีรษะได้ กาแฟดำมีสารคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้ตื่นตัว ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานมากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและควบคุมการทำงานของระบบประสาทได้ดีขึ้น ทำให้ลดอาการปวดศรีษะได้
เคล็ดลับกินกาแฟดำให้ดีต่อสุขภาพ
1. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟดำตอนท้องว่างหรือดื่มแทนอาหารมื้อหลัก เพราะกาแฟมีกรดที่อาจกัดกระเพาะได้
2. ไม่ควรดื่มกาแฟดำเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 300 - 400 มิลลิกรัมต่อวัน
3. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินจำเป็น
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังเวลา 14.00 น. เพราะอาจทำให้นอนหลับยาก
กาแฟดำกับผู้ตั้งครรภ์และเด็ก
การศึกษาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารายงานว่าการบริโภคคาเฟอีนปริมาณปานกลาง รวมถึงคาเฟอีนจากกาแฟ ไม่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี หญิงที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตรยังคงสามารถดื่มกาแฟธรรมดาได้ แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลดปริมาณการบริโภคคาเฟอีนให้เหลือ 200 มิลลิกรัมต่อวัน
ไม่มีผลวิจัยเเละการศึกษาใดๆ ที่กล่าวถึงเรื่องผลกระทบของกาแฟหรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนต่อเด็ก ดังนั้น เราขอแนะนำให้จำกัดการบริโภคกาแฟและคาเฟอีนในเด็ก
Benefits of black coffee , ประโยชน์ของกาแฟดำ , ประโยชน์ของกาแฟ
CR :: https://www.nespresso.com/th/th/black-coffee , https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/10/benefits-coffee.html
9 ประโยชน์สุดเจ๋งของกาแฟ ที่คุณต้องตะลึง
ตอบลบ1.ลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่ว
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปี 2002 เผยว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงประมาณ 25% เช่นเดียวกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ด้วย
2. ช่วยลดความเครียด
เชื่อว่าหลายคนแอบเห็นด้วยกับผลวิจัยนี้ เพราะเมื่อรู้สึกเครียด ๆ ทีไร ได้จิบกาแฟสักหน่อยก็จะรู้สึกดีขึ้น ซึ่งคราวนี้เราการันตีด้วยผลการวิจัยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า คนที่ดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน จะลดความเครียดได้ประมาณ 15 % แต่หากดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะสามารถลดความเครียดได้ถึง 20% เลยทีเดียว
3. รอดจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2
จากการศึกษาของภาคการเกษตรและเคมีอาหารของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทราบว่า นักดื่มกาแฟตัวยง จะมีโอกาสรอดพ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประมาณ 50% เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั่นเอง
4. ช่วยกระตุ้นความจำ
ผลการวิจัยจากภาครังสีวิทยาของอเมริกาเหนือกล่าวว่า หากดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน จะสามารถพัฒนาความจำ และปฏิกิริยาตอบโต้ได้ดีขึ้น สอดคล้องกับการวิจัยของอีกสถาบันหนึ่งที่บอกว่า ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป หากดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวัน จะมีความจำที่ดีขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ หรือดื่มกาแฟน้อยกว่านี้
ส่วนมหาวิทยาลัยเซาท์ฟรอริด้าก็เผยว่า คนอายุล่วงเข้าวัยกลางคน ควรดื่มกาแฟประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF สารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ด้วยค่ะ
5. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า การดื่มกาแฟวันละ 2-5 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของคาเฟอีน จะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับได้ในระดับหนึ่ง
6. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ
มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า คาเฟอีนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม และอาจจะทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ แต่ล่าสุดผลการวิจัยเมื่อปี 2006 เพิ่งจะได้ข้อสรุปว่า คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟสดคั่วบด มีผลกับการลดน้ำหนักในผู้หญิงได้จริง และสามารถลดน้ำหนักเฉลี่ยได้ 7.7 กิโลกรัมภายใน 22 สัปดาห์เลยทีเดียวจ้า
7. ปลุกความตื่นตัวได้ในทันที
คาเฟอีนมีคุณสมบัติไม่ต่างจากสารกระตุ้นดี ๆ ชนิดหนึ่ง ที่สามารถปลุกความตื่นตัวให้กับร่างกายที่อ่อนล้า หรืออ่อนเพลียได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ยืนยันด้วยการทดลองกับนักกีฬากลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ดื่มกาแฟระหว่างที่ฝึกซ้อม และพบว่า นักกีฬากลุ่มที่ดื่มกาแฟจะสามารถฝึกซ้อมกีฬาได้นานขึ้น เรียกได้ว่ามีความอึดมากกว่าเดิมนั่นเอง โดยความคึกคักที่เกิดขึ้นจะมีระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
8. ลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน
สถาบันการแพทย์อเมริกันได้ทำการวิจัยและพบว่า คาเฟอีนในกาแฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน โดยผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้วเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคพาคินสันได้ถึง 25%
9. ลดโอกาสเป็นโรคเกาต์
สำหรับคนที่กลัวตัวเองจะเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวันอย่างต่อเนื่อง เพราะผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งหนึ่งยืนยันแล้วว่า คาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาการอักเสบของข้อ เนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล และคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 60% เลยค่ะ
5 ประโยชน์ของ กาแฟดำ
ตอบลบ1. กาแฟดำช่วยกระตุ้นอะดรีนาลินหลั่ง ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น
ปกติแล้วฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) จะหลั่งออกมาก็ต่อเมื่อร่างกายเจอกับสภาวะเครียด กดดัน ตื่นเต้นตกใจ หรือโกรธ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการต่อสู้หรือเจอกิจกรรมที่รวดเร็วและใช้กำลังมาก จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกายจะไปช่วยเพิ่มฮอร์โมนอะดรีนาลีนให้มากขึ้น ซึ่งจะมีผลโดยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายได้ดีขึ้นขณะออกกำลังกาย และยังสั่งให้ร่างกายไปดึงเอาไขมันมาใช้เป็นพลังงาน โดยเก็บตุนพลังงานจากน้ำตาลไปใช้ในระยะต่อไปในการออกกำลังกายได้ ร่างกายจึงค่อยๆ เผาผลาญพลังงานเป็นระยะแบบนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กล้ามเนื้อคงความแข็งแรงไว้ได้ รู้สึกมีพละกำลังนานขึ้น สามารถต้านทานความรู้สึกเหนื่อยล้าหรือปวดเมื่อระหว่างการออกกำลังกายได้ ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในแง่ของความทนทานมากขึ้น 12% จึงดีต่อการออกกำลังกายที่ใช้เวลานานๆ เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เป็นต้น
2. กาแฟดำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบเมตาบอลิซึม เร่งเบิร์น รีเทิร์นหุ่นเป๊ะ
ใครที่อยากฟิตหุ่นด้วยการออกกำลังกาย ให้ลองดื่มกาแฟดำ 1 แก้ว ก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เพราะคาเฟอีนในกาแฟดำ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบเมตาบอลิซึม ทำให้สามารถเผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงานได้มากกว่าปกติ รวมทั้งช่วยสร้างน้ำย่อยที่กระเพาะอาหารและตับอ่อนมากขึ้น กาแฟดำจึงเป็นตัวช่วยที่ดีต่อการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการออกกำลังกายรูปแบบ Cardio เช่น แอโรบิก กระโดดเชือก ว่ายน้ำ เป็นต้น ที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจไปแตะที่ 60 - 70% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจต่อนาที (MPHR) ซึ่งเป็นอัตราที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันส่วนเกินมาใช้
3. กาแฟดำมีคาเฟอีน ช่วยปลุกความตื่นตัว ลดความเครียด
ในกาแฟดำมีคาเฟอีนซึ่งเป็นสารสำคัญที่สามารถปลุกความตื่นตัวให้กับร่างกายที่อ่อนล้าหรืออ่อนเพลียได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า หายง่วงขึ้นมาทันที และคาเฟอีนในกาแฟดำมีส่วนช่วยขยายหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น อาการตึงเครียดก็จะผ่อนคลายลง เพียงแค่ได้กลิ่นกาแฟหอม ๆ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว และยังช่วยลดอาการปวดศีรษะจากความเครียดหรืออาการเมาค้างได้ด้วย
4. กาแฟดำช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน G-CSF ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์
การศึกษาของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา เผยว่า คนอายุล่วงเข้าวัยกลางคน ควรดื่มกาแฟประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน G-CSF ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ นอกจากนี้กาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท ลดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ที่เกิดตามวัยได้
5. กาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันมะเร็ง ช่วยชะลอวัย
สำนักงานวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้อ้างถึงงานวิจัยที่พบว่า ในกาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ทั้งฟลาโวนอยด์และกรดอะซิติก ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติในร่างกาย อาจช่วยลดก้อนเนื้อร้ายหรือทำลายเซลล์ที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ ทั้งโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก รวมไปถึงมะเร็งปากมดลูก และยังช่วยชะลอวัย ลดความเหี่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง กระชับ
5 เคล็ดลับกินกาแฟดำให้ดีต่อสุขภาพ ควรกินแบบไหนดี ?
1. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟดำตอนท้องว่าง เพราะกาแฟมีกรดที่อาจกัดกระเพาะได้
2. ไม่ควรดื่มกาแฟดำเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 300 - 400 มิลลิกรัมต่อวัน
3. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินจำเป็น
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังเวลา 14.00 น. เพราะอาจทำให้นอนหลับยาก
5. หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าต้องจำกัดการกินกาแฟหรือต้องงดดื่มกาแฟหรือไม่
ประโยชน์ 11 ข้อ ของการ "ดื่มกาแฟ" ที่ไม่ใส่น้ำตาลและไม่ใส่คอฟฟี่เมท
ตอบลบ1. ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ.B.มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้ว
2. ช่วยป้องกันโรคหอบโรคนี้คืออาการภูมิแพ้ชนิดหนึ่งโดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้นจะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที..คาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ
3. ช่วยลดการเกิดโรคตับจากสุราตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่ากาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับได้อย่างดี
4. ช่วยป้องกันมะเร็งตับมะเร็งลำไส้และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิ ภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วย ป้องกันโรคต่างๆดังกล่าวได้
5. ช่วยขับไล่ความชราอ็อกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริงแต่ถ้ามีออกซิเจนมากไปทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวลดการเกิดมะเร็งได้กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกายได้ดี
6. การดื่มกาแฟเป็นประจำช่วยลดอัตราคอเลสเตอรอลป้องกันโรคหัวใจในกาแฟมีนิโคตินแต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่.แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดจึงป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัวได้
7. ช่วยละลายไขมันกาแฟที่ดื่มหลังอิ่มอาหารช่วยให้ไขมันแตกตัวและให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้ด้วย
8. กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวตามผลการวิจัยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด HDLเพิ่มขึ้นซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไปป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวได้
9. ช่วยแก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือดระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวดและยังช่วยขับปัสสาวะ.ละลายไขมันในเส้นเลือดและช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้
10. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมองมีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่าความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นนั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟทำให้ เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น
11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้นไขมันแตกตัวหากได้ดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จคาเฟอีนในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรงน้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนจะเพิ่มขึ้นไขมันถูกเผาผลาญได้ดีมากขึ้น.
สำหรับคอกาแฟดำทั้งหลายคงยิ้มออก แต่การรับประทานก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอดีนะคะ วันละ 1 แก้วกำลังพอดี