Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

บทภาวนาคาทอลิก

 บทภาวนาคาทอลิก

 


บทสวดภาวนาที่ควรรู้


เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต. อาแมน

   

 

บทร้องหาพระจิต


ก. เชิญเสด็จมา พระจิตเจ้าข้า

ร. เชิญมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ* และบันดาลให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์

ก. โปรดส่งพระจิตของพระองค์* และสรรพสิ่งจะอุบัติขึ้นมา

ร. แล้วพระองค์จะนิมิตแผ่นดินขึ้นใหม่.

  

  

เราจงภาวนา


ข้าแต่พระเป็นเจ้า* พระองค์ทรงสอนใจสัตบุรุษด้วยความสว่างของพระจิต* ขอให้เราซาบซึ้งในความเที่ยงตรงด้วยพระจิตนั้น* และให้ได้รับความบรรเทาจากพระองค์เสมอ* เดชะพระสวามีคริสตเจ้า. อาแมน

  

  

บทข้าแต่พระบิดา


ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย* พระองค์สถิตในสวรรค์* พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ* พระอาณาจักรจงมาถึง* ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์

  

ขอประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้* โปรดยกโทษข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น* อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นภัย. อาแมน

  

  

บทวันทามารีอา


วันทามารีอา* เปี่ยมด้วยหรรษทาน พระสวามีสถิตกับท่าน ผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ* และพระเยซู โอรสของท่านทรงบุญนักหนา.

  

สันตะมารีอา มารดาพระเจ้า* โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน.

  

  

สิริ


ก. สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต 

ร. เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และทุกเมื่อ ตลอดนิรันดร อาแมน. 

  

  


ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า


ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า* พระบิดาทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน* เชื่อถึงพระเอกบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา* ปฏิสนธิ เดชะพระจิต บังเกิดจากพระนางมารีอาพรหมจารี* รับทรมานสมัยปอนซีโอปีลาโต ถูกตรึงกางเขน ตายและฝังไว้* เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย* เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ* แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย

  

ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า* พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล* สหพันธ์นักบุญ* การยกบาป,* การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดร. 

อาแมน.

  

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


พระบัญญัติพระเป็นเจ้า

  


๑. จงนมัสการพระสวามี พระเป็นเจ้าผู้เดียวของเจ้า

๒. อย่าออกนามพระสวามีพระเป็นเจ้า โดยไม่สมเหตุ

๓. วันพระเจ้า อย่าลืมฉลองเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ 

๔. จงนับถือบิดามารดา

๕. อย่าฆ่าคน

๖. อย่าทำอุลามก

๗. อย่าลักขโมย

๘. อย่าใส่ความนินทา

๙. อย่าปลงใจในความอุลามก

๑๐. อย่ามักได้ทรัพย์ของเขา.

  

  


พระบัญญัติพระศาสนจักร


๑. จงฟังมิสซา และอย่าทำงานในวันอาทิตย์ และวันฉลองบังคับ

๒. จงอดอาหาร และอดเนื้อ ในวันบังคับ

๓. จงรับศีลแก้บาปอย่างน้อยปีละครั้ง และจงรับศีลมหาสนิทอย่างน้อยปีละครั้ง ในกำหนดปาสกา

๔. จงบำรุงพระศาสนจักรตามความสามารถ.

 

 

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

  


ข้าพเจ้าขอสารภาพ


ข้าพเจ้าขอสารภาพ ต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และต่อพี่น้องด้วย ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย, วาจา, ใจ และด้วยการละเลย ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอก เพียงครั้งเดียว)

  

ดังนั้นขอพระนางมารี ผู้เป็นพรหมจารีเสมอ* ขอเทวดา, นักบุญทั้งหลาย และพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ.

  

  

บทแสดงความเชื่อ


ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในความจริงทุกข้อ* ที่พระองค์ไขแสดง และที่พระศาสนจักรสั่งสอน* ทั้งนี้เพราะพระองค์ไม่รู้จักหลง ทั้งไม่รู้จักหลอกลวง. อาแมน

   

  

บทแสดงความไว้ใจ


ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าไว้ใจมั่นว่า* เดชะพระบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า* พระองค์ประทานพระหรรษทานแก่ข้าพเจ้าในโลกนี้.* และสันดิสุขนิรันดรในโลกหน้า* ทั้งนี้เพราะพระองค์สัญญา และถือตามเสมอ. อาแมน

  

  

บทแสดงความรัก


ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจยิ่งกว่าสิ่งทั้งปวง* เพราะพระองค์เป็นความดีงาม และทรงน่ารักหาที่สุดมิได้* และเพราะรักพระองค์ ข้าพเจ้ายังรักผู้อื่น เหมืีอนรักตัวข้าพเจ้าเอง. อาแมน

   

   

บทแสดงความทุกข์


ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้กระทำบาป* เพราะบาปเรียกร้องอาชญาของพระองค์* แต่เป็นต้นเพราะมันทำเคืองพระทัยพระองค์ ซึ่งดีและน่ารักยิ่งนัก* เดชะพระหรรษทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่า* จะไม่ทำบาปอีกเลย ทั้งจะอุตส่าห์ใช้โทษ* ขอทรงพระกรุณายกบาปแก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด. อาแมน

  

  

โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า


โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า* ชาวเราหลบมาพึ่งท่าน* โปรดอย่าเมินเฉยต่อคำวิงวอนในยามทุกข์ร้อนของเรา* แต่โปรดช่วยเราให้พ้นภัยทั้งสิ้นเสมอเถิด* ท่านศรีพรหมจารีผู้ทรงบุญ.

  

  

ข้าแต่อารักขเทวดา


ข้าแต่อารักขเทวดา* พระเป็นเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน* โปรดส่องสว่าง พิทักษ์รักษา และคุ้มครองข้าพเจ้า ตามทางความรอด ณ วันนี้ (ณ คืนนี้) ด้วยเทอญ. อาแมน.

  

  

ก่อนอาหาร

พระเจ้าข้า* โปรดอวยพรแก่ข้าพเจ้า และอาหารที่จะรับประทานนี้. เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต. อาแมน

   

  

หลังอาหาร

ขอขอบพระคุณ* โอ้พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ดำรงชีพและเสวยราชย์ตลอดนิรันดร. อาแมน



บท เยซู มารีย์ โยเซฟ


เยซู มารีย์ โยเซฟ ข้าพเจ้าขอถวายดวงใจ สติปัญญาและชีวิตแด่ท่าน

เยซู มารีย์ โยเซฟ โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าเมื่อใกล้จะตาย

เยซู มารีย์ โยเซฟ โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้สิ้นใจอย่างราบรื่นในศีลในพรของท่านด้วยเทอญ 


บทโปรดระลึกเถิด

โปรดระลึกเถิด พระแม่มารีย์พรหมจารีผู้โอบอ้อมอารี แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยได้ยินเลยว่า ผู้ที่มาพึ่งพา ขอความช่วยเหลือ และความคุ้มครองจากพระแม่ จะถูกพระแม่ทอดทิ้ง ลูกมั่นใจดังนี้ จึงรีบมาเฝ้าพระมารดา พรหมจารีแห่งพรหมจารีทั้งหลาย ลูกเป็นคนบาป มาคร่ำครวญอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระแม่ ข้าแต่พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์ โปรดอย่าเมินเฉยต่อวาจาของลูก แต่โปรดฟังและประทานตามที่ลูกวอนขอด้วยเทอญ อาเมน


บทอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ


ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานการพักผ่อนนิรันดรแก่เขาเถิด

ขอให้ความสว่างนิรันดรส่องแสงแก่เขา

ขอให้เขา(ทั้งหลาย)ได้พักผ่อนตลอดนิรันดรเถิด


บทวันทาพระราชินี


วันทาพระราชินี พระแม่ผู้ทรงเมตตากรุณา ทรงเป็นชีวิต ความอ่อนโยน และความหวังของลูกทุกคน ลูกผู้เป็นลูกหลานที่ถูกเนรเทศของเอวา ขอวันทา ร้องหาพระแม่ ถอนใจคร่ำครวญ ร่ำไห้ในเหวน้ำตานี้ โปรดเถิดพระแม่ผู้ทรงช่วยเหลือเกื้อกูลลูก โปรดทอดพระเนตรเมตตามายังลูก และเมื่อชีวิตเนรเทศนี้ผ่านพ้นไปแล้ว โปรดแสดงให้ลูกเห็นพระเยซูพระบุตรผู้ทรงได้รับพระพร ข้าแต่พระแม่ผู้เมตตากรุณา พระแม่ผู้โอบอ้อมอารี มารีย์พรหมจารีผู้มีพระทัยอ่อนโยน


บทสรรเสริญพระเจ้า


จงสรรเสริญพระเจ้า

จงสรรเสริญพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

จงสรรเสริญพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าแท้และมนุษย์แท้

จงสรรเสริญพระนามเยซู

จงสรรเสริญพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์

จงสรรเสริญพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์

จงสรรเสริญพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท

จงสรรเสริญพระจิตเจ้า พระผู้บรรเทา

จงสรรเสริญพระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระชนนีของพระเจ้า

จงสรรเสริญการปฏิสนธิศักดิ์สิทธิ์และนิรมลของพระนาง

จงสรรเสริญการรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์อย่างรุ่งโรจน์ของพระนาง

จงสรรเสริญพระนามมารีย์ พรหมจารีและมารดา

จงสรรเสริญนักบุญโยเซฟ ภัสดาผู้บริสุทธิ์ยิ่งของพระนาง

จงสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับทูตสวรรค์และผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย



บทถวายประเทศไทยแด่แม่พระ


(ในโอกาสวันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ องค์อุปถัมภ์ของประเทศไทย)


ข้าแต่พระแม่มารีย์ ผู้ทรงรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ พวกลูกชาวไทยต่างชื่นชมยินดีในเกียรติอันสูงส่ง ซึ่งพระเจ้าได้ประทานแด่พระแม่


วันนี้ลูกขอถวายประเทศไทย อันเป็นแผ่นดินถิ่นเกิดของลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระแม่ ขอพระแม่ได้รักษาอิสรภาพและความเป็นไท ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมาถึงลูกทุกคน ตราบเท่าทุกวันนี้


ลูกวอนขอพระแม่ได้โปรดปกป้องคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป


ลูกวอนขอพระแม่ได้โปรดให้ชาวไทยทุกคน รักและหวงแหนความเป็นไทของตน มีความสมานสามัคคีกลมเกลียวกัน ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าของชาวไทยทุกคน


โปรดอำนวยพระพรแก่พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชชายหญิง ให้ทุกท่านเป็นผู้มีจิตใจเสียสละในการรับใช้ประชากรของพระเจ้า ขอให้เยาวชนคาทอลิกตอบสนองพระกระแสเรียกด้วยใจเสียสละมากยิ่งขึ้น โปรดประทานพระพรแก่กิจการต่าง ๆ ของพระศาสนจักรในด้านการศึกษา ด้านการพัฒนาและสงเคราะห์ เพื่อเป็นสักขีพยานถึงความรักแบบคริสตชนอย่างแท้จริง


ข้าแต่พระแม่มารีย์ผู้ทรงรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ องค์อุปถัมภ์ของประเทศไทย ลูกขอถวายประเทศชาติบ้านเมือง อันเป็นที่รักของลูกแด่พระแม่ ขอพระแม่ปกป้องคุ้มครองประเทศไทย และพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะผู้มีใจรักและศรัทธาเป็นพิเศษต่อพระแม่ด้วยเทอญ อาเมน



ที่มา    ::    https://catholicthai.wordpress.com/

19 ความคิดเห็น:

  1. บทที่ ๑: ชื่อและเครื่องหมายของคริสตังค์


    วันหนึ่ง มีผู้นำเด็กหลายคนมาขอให้พระเยซูเจ้าทรงอวยพร สาวกเห็นดังนั้นก็ห้ามกันไว้ แต่พระองค์ตรัสว่า “ปล่อยให้เด็กๆเข้ามาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เหตุว่าเมืองสวรรค์เป็นของผู้ที่ทำตนซื่อๆเหมือนเด็ก”

    พระเยซูเจ้าทรงรักเด็กมาก พระองค์ทรงรักฉันด้วย ฉันอยากรักตอบพระองค์ อยากเป็นศิษย์ของพระองค์เสมอ.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑. คริสตังค์ คือใคร ?
    ตอบ: คริสตังค์ คือ ผู้ที่ได้รับศีลล้างบาป เชื่อถือตามพระเยซูคริสตเจ้า และผู้แทนของพระองค์.

    ๒. อะไรเป็นเครื่องหมายภายนอกของคริสตังค์ ?
    ตอบ: สำคัญมหากางเขนเป็นเครื่องหมายภายนอกของคริสตังค์.

    ๓. จงทำ สำคัญมหากางเขน ให้ดู
    ตอบ: เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน.

    ๔. ควรทำ สำคัญมหากางเขน เมื่อไหร่ ?
    ตอบ: ควรทำสำคัญมหากางเขน:
    ๑. เมื่อตื่นนอน และ เมื่อจะเข้านอน
    ๒. ก่อนลงมือทำงานสำคัญ และ เมื่อเลิกงานนั้นแล้ว
    ๓. เมื่อประสบภัย และเมื่อถูกประจญ เป็นต้น.

    ฉันจะตั้งใจทำสำคัญมหากางเขนด้วยดี.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน.

    ตอบลบ
  2. บทที่ ๒: จุดหมายการสร้างมนุษย์


    สวรรค์ เป็นสถานที่พระเป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่เทวดาซื่อสัตย์ และบรรดานักบุญ บันดาลให้ชาวสวรรค์เสวยความบรมสุขเหลือล้น.

    ฉันจะพยายามเป็นเด็กดี เพื่อสักวันหนึ่งจะได้ไปร่วมเสวยสุขกับพระองค์ในสวรรค์ด้วย.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๕. ใครสร้างเรามา ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าทรงสร้างเรามา.

    ๖. พระเป็นเจ้า ทรงสร้างเรามา เพื่ออะไร ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าทรงสร้างเรามา เพื่อให้เรา
    ๑. รู้จักพระองค์
    ๒. รักพระองค์ และ
    ๓. ปรนนิบัติพระองค์บนแผ่นดินนี้ เราจึงจะได้เสวยบรมสุขกับพระองค์ในสวรรค์.

    ๗. เราต้องทำอย่างไร จึงจะเอาตัวรอดไปสวรรค์ได้ ?
    ตอบ: เราต้องเจริญชีวิตอย่างคริสตังค์ดี.

    ๘. เพียงแต่รับศีลล้างบาป ก็พอที่จะเป็นคริสตังค์ดีหรือ ?
    ตอบ: มิได้. ยังต้องเชื่อและปฏิบัติตามคำสอนคริสตังค์ด้วย.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    พระเจ้าข้า ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสร้างลูกมา และโปรดให้ลูกเป็นคริสตังค์ เพื่อให้ลูกมีโอกาสจะเสวยสุขกับพระองค์ในเมืองสวรรค์.

    ตอบลบ
  3. บทที่ ๓: พระธรรมคำสอนคริสตังค์



    สิ่งที่เราต้องเชื่อ คือ คำสั่งสอนต่างๆที่พระเยซูเจ้าทรงมอบ แก่คณะอัครสาวก ระหว่าง ๓ ปีที่ทรงเทศนาในประเทศปาเลสไตน์. อัครสาวกทรงมอบคำสั่งสอนเหล่านั้นแก่เรา ซึ่งบัดนี้เรากำลังเรียนกัน เรียกว่า “คำสอน” เราเรียนคำสอนเพื่อจะได้รู้เรื่องเกี่ยวกับพระเป็นเจ้าและความรอดของเรา. ฉันจะตั้งใจเรียน ให้รู้จักคำสอนดีๆ และพยายามปฏิบัติตาม.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๙. หัวข้อพระศาสนาคริสตังค์ มีอยู่ที่ไหน ?
    ตอบ: มีอยู่ในหนังสือ “คำสอนพระศาสนาคริสตังค์”

    ๑๐. บทสวดไหนย่อข้อความเชื่อที่เป็นหลักสำคัญแห่งพระศาสนาคริสตังค์ ?
    ตอบ: บท “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า”

    ๑๑. ให้สวดบท “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า”
    ตอบ: ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า* พระบิดาทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน* เชื่อถึงพระเอกบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา* ปฏิสนธิ เดชะพระจิต บังเกิดจากพระนางมารีอาพรหมจารี* รับทรมานสมัยปอนซีโอปีลาโต ถูกตรึงกางเขน ตายและฝังไว้* เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย* เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ* แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย

    ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า* พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล* สหพันธ์นักบุญ* การยกบาป,* การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดร. อาแมน.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    บทแสดงความเชื่อ
    ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในความจริงทุกข้อ* ที่พระองค์ไขแสดง และที่พระศาสนจักรสั่งสอน* ทั้งนี้เพราะพระองค์ไม่รู้จักหลง ทั้งไม่รู้จักหลอกลวง. อาแมน

    ตอบลบ
  4. บทที่ ๔: เรื่องพระเป็นเจ้า


    เมื่อเราเห็นนาฬิกา ก็รู้ว่าต้องมีนายช่างทำขึ้น เมื่อเห็นเสื้อผ้า ก็รู้ว่าต้องมีผู้ตัดเย็บ. เมื่อเห็นภูเขา, แผ่นดิน, ทะเล, ต้นไม้ ฯลฯ เรารู้ว่าจำเป็นต้องมีผู้ทำเหมือนกัน; แต่สิ่งเหล่านี้ ใหญ่โตเหลือเกิน มนุษย์ทำไม่ได้. ผู้ที่สร้างสรรพสิ่งในโลก คือ พระเป็นเจ้า.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑๒. พระเป็นเจ้า ทรงเป็นอะไร ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิตล้วน, ทรงเจริญอยู่ตลอดนิรันดร, ทรงเป็นผู้ดีบริบูรณ์อย่างไม่มีขอบเขต, ทรงเป็นผู้สร้าง และเป็นเจ้านายสูงสุดของสิ่งทั้งหลาย.

    ๑๓. ทำไมจึงว่า พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิตล้วน ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิตล้วน เพราะพระองค์ไม่ทรงมี ร่างกาย ซึ่งอาจแลเห็น และ ถูกต้องได้ อย่างมนุษย์.

    ๑๔. พระเป็นเจ้า สถิตอยู่ไหน ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าสถิตอยู่ทั่วไป ในสวรรค์ แผ่นดิน และทั่วทุกแห่งหน.

    ๑๕. พระเป็นเจ้า ทรงรู้เห็นสารพัดหรือ ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าทรงรู้เห็นสารพัด: เหตุการณ์ในอดีต, ปัจจุบัน และ อนาคต, สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด.

    ๑๖. มีกี่พระเป็นเจ้าแท้ ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้าแท้ มีแต่พระเจ้าเดียวเท่านั้น.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    บทข้าแต่พระบิดา
    ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย* พระองค์สถิตในสวรรค์* พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ* พระอาณาจักรจงมาถึง* ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์

    ขอประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้* โปรดยกโทษข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น* อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นภัย. อาแมน

    ตอบลบ
  5. บทที่ ๕: พระธรรมล้ำลึกแห่งพระคริสตศาสนา


    คำว่า “พระธรรมล้ำลึกในพระศาสนา” หมายถึง ข้อความจริงที่มิอาจเข้าใจตลอดได้ แต่ว่าเป็นข้อที่เราต้องเชื่อ.

    พระเยซูคริสตเจ้า ทรงสอนเราให้รู้จักพระธรรมล้ำลึกต่างๆ ที่สติปัญญาของเรา ไม่สามารถรู้จักได้.

    วันหนึ่งนักบุญเอากุสตีโน กำลังคิดเพื่อจะเข้าใจพระธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ ก็ได้พบเด็กคนหนึ่ง กำลังขุดรูในทรายเพื่อตักน้ำทะเลมาใส่. ท่านนักบุญจึงบอกว่า เห็นจะไม่สำเร็จดอก.

    เด็กคนนั้นตอบว่า “การตักน้ำทะเลมาบรรจุในบ่อทราย ยังง่ายกว่าที่ท่านจะเข้าใจเรื่องพระตรีเอกภาพ” แล้วเด็กก็อันตรธานหายไป. นักบุญเอากุสตีโนจึงเข้าใจทันทีว่า เป็นพระเป็นเจ้า ที่ทรงใช้เทวดา มาสอนท่าน ให้เลิกคิดที่จะเข้าใจพระธรรมล้ำลึกนี้.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑๗. พระธรรมล้ำลึกสำคัญอันเป็นรากฐานแห่งพระคริสตศาสนา มีอยู่กี่ประการ ?
    ตอบ: มีอยู่ ๓ ประการ คือ
    ๑. พระตรีเอกภาพ
    ๒. พระบุตรเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์
    ๓. การไถ่บาปมนุษย์.

    ๑๘. เครื่องหมายอะไร ทำให้เราคิดถึงพระธรรมล้ำลึก ๓ ประการแห่งพระคริสตศาสนา?
    ตอบ: เครื่องหมายนั้นคือ สำคัญมหากางเขน.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
    ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า* พระบิดาทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน* เชื่อถึงพระเอกบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา* ปฏิสนธิ เดชะพระจิต บังเกิดจากพระนางมารีอาพรหมจารี* รับทรมานสมัยปอนซีโอปีลาโต ถูกตรึงกางเขน ตายและฝังไว้* เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย* เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ* แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย

    ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า* พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล* สหพันธ์นักบุญ* การยกบาป,* การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดร. อาแมน.

    ตอบลบ
  6. บทที่ ๖: พระตรีเอกภาพ



    พระเป็นเจ้าทรงเป็นจิต มนุษย์จึงมิอาจแลเห็นหรือได้ยินเสียงของพระองค์ได้. แต่บางครั้งพระเป็นเจ้าเคยแสดงพระองค์แก่มนุษย์ เช่น เมื่อวันพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง จากนักบุญ ยวง บัปติสตา ที่แม่น้ำจอร์แดน.

    ขณะที่ยวงทำพิธี ท้องฟ้าได้เผยออก มีพระจิตเสด็จมา เหนือพระเยซูเจ้าเป็นรูปนกพิราบ และได้ยินเสียงพระบิดาตรัสว่า “นี่คือลูกที่รักของเรา”. วันนั้นมนุษย์จึงรู้ว่า มีสามพระบุคคลในพระตรีเอกภาพ คือ

    ๑. พระบิดา ตรัสจากสวรรค์.
    ๒. พระบุตร ทรงรับพิธีล้าง.
    ๓. พระจิต เสด็จมาเป็นรูปนกพิราบ.

    หมายเหตุ “พระตรีเอกภาพ” มาจากศัพท์ “ตรี” = สาม, “เอก” = หนึ่ง, “ภาพ” = ความเป็น หมายถึงในพระเป็นเจ้ามีสามพระบุคคล: พระบิดา, พระบุตร และพระจิต รวมเป็นพระเจ้าเดียว.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑๙. พระธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพคืออะไร ?
    ตอบ: คือพระเป็นเจ้าพระเจ้าเดียว ทรงเป็นสามพระบุคคล ต่างกัน และเท่ากัน.

    ๒๐. สามพระบุคคล ทรงพระนามว่าอะไร ?
    ตอบ: พระบุคคล องค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระบิดา
    องค์ที่สอง ทรงพระนามว่า พระบุตร
    องค์ที่สาม ทรงพระนามว่า พระจิต.

    ๒๑. พระบิดา ทรงเป็นพระเป็นเจ้าหรือ ?
    ตอบ: พระบิดาทรงเป็นพระเป็นเจ้า.

    ๒๒. พระบุตร ทรงเป็นพระเป็นเจ้าหรือ ?
    ตอบ: พระบุตรทรงเป็นพระเป็นเจ้า.

    ๒๓. พระจิต ทรงเป็นพระเป็นเจ้าหรือ ?
    ตอบ: พระจิตทรงเป็นพระเป็นเจ้า.

    ๒๔. ดังนี้พระบุคคลสามพระองค์ เป็นสามพระเป็นเจ้าหรือ ?
    ตอบ: มิได้, พระบุคคลสามพระองค์นี้ ทรงเป็นพระเป็นเจ้า เพียงพระเจ้าเดียว.

    ๒๕. ในสามพระบุคคลนี้ พระองค์ไหนทรงใหญ่กว่า, ทรงมีฤทธิ์กว่า หรือทรงอยู่ก่อนหลัง ?
    ตอบ: มิได้, สามพระบุคคลนี้ เท่ากันทุกประการ.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุตร และ พระจิต.

    ตอบลบ
  7. บทที่ ๗: เทวดาและมนุษย์



    พระเป็นเจ้าทรงใช้เทวดามาทำธุระเกี่ยวกับมนุษย์บ่อยๆ เช่น ทรงใช้เทวดาคาเบรียล มาแจ้งแก่พระนางพรหมจารี มารีอา ว่าจะเป็นพระมารดาของพระเป็นเจ้่า.

    พระเป็นเจ้ายังสั่งให้เืทวดามาคุ้มครองรักษามนุษย์ด้วย. เืทวดาที่รับหน้าที่นี้โดยเฉพาะเพื่อคุ้มครองเรา เรียกว่า “อารักขเทวดา”.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๒๖. ในสรรพสิ่งที่พระเป็นเจ้าทรงสร้างมา อะไรประเสริฐกว่าหมด ?
    ตอบ: เทวดา และ มนุษย์ ประเสริฐกว่าทั้งหมด.

    ๒๗. เรามี เทวดารักษาตัว ทุกคนหรือ ?
    ตอบ: เรามีเทวดารักษาตัวทุกคน คนละองค์ เรียกว่า อารักขเทวดา.

    ๒๘. ใครเป็น บิดามารดาคู่แรก ของมนุษย์ ?
    ตอบ: อาดัมและเอวา เป็นบิดามารดาคู่แรกของมนุษย์.

    ๒๙. อาดัม และ เอวา ได้นอบน้อมต่อพระเป็นเจ้าหรือ ?
    ตอบ: อาดัมและเอวามิได้นอบน้อม แต่ได้เชื่อฟังผีปีศาจ มุ่งเป็นใหญ่เท่าเสมอพระเป็นเจ้า.

    ๓๐. บาปที่อาดัมและเอวาทำนั้น มีชื่อว่าอะไร ?
    ตอบ: บาปที่อาดัมและเอวาทำนั้น มีชื่อว่า บาปกำเนิด.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าแต่อารักขเทวดา
    ข้าแต่อารักขเทวดา* พระเป็นเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน* โปรดส่องสว่าง พิทักษ์รักษา และคุ้มครองข้าพเจ้า ตามทางความรอด ณ วันนี้ (ณ คืนนี้) ด้วยเทอญ. อาแมน.

    ตอบลบ
  8. บทที่ ๘: การบังเกิดเป็นมนุษย์


    เราฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าในวันคริสต์มาส หรือ วันพระคริสตสมภพ. พระเยซูเจ้าทรงพอพระทัยเกิดเป็นคนยากจนในถ้ำเลี้ยงสัตว์ เพื่อพิสูจน์ว่า พระองค์ทรงรักคนจน. เมื่อใครๆเชื่อและถือตามคำสั่งสอนของพระเป็นเจ้า เขาก็เป็นเศรษฐี เพราะแน่ใจว่า สักวันหนึ่ง จะได้ไปสวรรค์.

    (ดูพระวรสารโดย นักบุญลูกา บทที่ ๒)


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๓๑. หลังบาปกำเนิด พระเป็นเจ้าทรงทอดทิ้งมนุษย์หรือไม่ ?
    ตอบ: พระเป็นเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งมนุษย์ แต่ทรงสัญญาว่า จะใช้ พระผู้ไถ่ มาช่วยให้พ้นบาป.

    ๓๒. พระผู้ไถ่ เสด็จมาแล้วหรือ ?
    ตอบ: พระผู้ไถ่ เสด็จมาแล้ว.

    ๓๓. พระผู้ไถ่ คือผู้ใด ?
    ตอบ: พระผู้ไถ่ คือ พระบุตร พระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพ ที่ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์.

    ๓๔. พระบุตรของพระเป็นเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงพระนามว่าอะไร ?
    ตอบ: ทรงพระนามว่า พระเยซูคริสตเจ้า.

    ๓๕. ใครเป็น มารดา ของพระเยซูคริสตเจ้า ?
    ตอบ: พระนางมหามารีอา ทรงเป็นมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า.

    ๓๖. นักบุญโยเซฟ เป็นใคร ?
    ตอบ: นักบุญโยเซฟเป็นบิดาสมมุติของพระเยซูคริสตเจ้า.

    ๓๗. เราฉลองวันเกิดพระเยซูคริสตเจ้า วันอะไร ?
    ตอบ: เราฉลองวันเกิด ของพระเยซูคริสตเจ้า วันที่ ๒๕ ธันวาคม ซึ่งเรียกว่า วันพระคริสตสมภพ.

    ๓๘. พระเยซูคริสตเจ้า ทรงบังเกิดที่ไหน ?
    ตอบ: พระเยซูคริสตเจ้าทรงบังเกิดที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ ตำบลเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    พระเจ้าข้า พระเป็นเจ้าของข้าพเจ้า.

    ตอบลบ
  9. บทที่ ๙: การไถ่บาป


    วันที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า คือ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของมนุษย์ทุกคนรวมทั้งพวกฉันด้วย. ฉันจะพยายามแสดงความรักต่อพระเยซูเจ้า แทนคนที่ไม่รู้จัก หรือ ที่เกลียดชังพระองค์.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๓๙. พระธรรมล้ำลึกการไถ่บาป คืออะไร ?
    ตอบ: พระธรรมล้ำลึกการไถ่บาป คือ พระเยซูคริสตเจ้า ได้สิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อไถ่มนุษยชาติกลับคืน.

    ๔๐. พระเยซูคริสตเจ้า สิ้นพระชนม์ วันไหน ?
    ตอบ: พระเยซูคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ เวลาบ่ายสามโมง.

    ๔๑. พระเยซูคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์แล้ว ทรงอยู่ในคูหานานเท่าไ่ร ?
    ตอบ: พระองค์ทรงอยู่ในคูหานานสามวัน. วันที่สามเวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงกลับเป็นขึ้นมา.

    ๔๒. พระเยซูคริสตเจ้าทรงกลับเป็นขึ้นมาวันอะไร ?
    ตอบ: พระองค์ทรงกลับเป็นขึ้นมา วันอาทิตย์ปาสกา.

    ๔๓. พระเยซูคริสตเจ้าทรงกลับเป็นขึ้นมาแล้ว ประทับอยู่ในโลกนี้ อีกช้านานเท่าไร ?
    ตอบ: พระองค์ประืทับอยู่ในโลกนี้ อีกสี่สิบวัน.

    ๔๔. หลังแต่ได้ทรงกลับเป็นขึ้นมา ครบสี่สิบวันแล้ว พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จไปไหน ?
    ตอบ: พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์.

    เวลานี้ ในส่วนที่ทรงเป็นพระเป็นเจ้า พระองค์สถิตอยู่ทั่วไป ทั่วทุกแห่งหน. ในส่วนที่ทรงเป็นมนุษย์-พระ พระองค์สถิตอยู่ในสวรรค์และในศีลมหาสนิท.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    พระเยซูเจ้าข้า ลูกขอนมัสการและถวายพระพรแด่พระองค์ เพราะพระองค์ทรงไถ่โลกด้วยกางเขนศักดิ์สิทธิ์.


    ตอบลบ
  10. บทที่ ๑๐: พระศาสนจักร


    ขณะที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จขึ้นสวรรค์ พระองค์ทรงสัญญาแก่บรรดาสาวกว่า จะทรงใช้พระจิตเสด็จมา. บรรดาสาวกจึงกลับมาที่กรุงเยรูซาเลม ประชุมสวดภาวนาอยู่ในห้อง. พอถึงวันที่สิบ พระจิตก็เสด็จมา บันดาลให้บรรดาสาวก เข้าใจซาบซึ้งในพระศาสนา และมีใจร้อนรนที่จะไปสั่งสอนนานาชาติ ตามที่พระเยซูเจ้าทรงสั่งไว้.

    พระเยซูเจ้าทรงตั้ง เปโตร เป็นหัวหน้าอัครสาวก. ต่อจากนักบุญเปโตร ก็มี สมเด็จพระสันตะปาปา เป็นหัวหน้าปกครอง พระศาสนจักร สืบต่อๆมาจนทุกวันนี้.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๔๕. พระเยซูคริสตเจ้า ยังสถิตอยู่กับเราหรือ ?
    ตอบ: พระองค์ยังสถิตอยู่กับเรา ทางพระศาสนจักร.

    ๔๖. พระศาสนจักร คืออะไร ?
    ตอบ: พระศาสนจักร คือ คริสตังค์ทั่วโลกรวมเป็นสังคมเดียว ได้ปกครองของพระสันตะปาปา และ พระสังฆราช.

    ๔๗. ใครช่วยพระสังฆราช ปกครองสังฆมณฑล ?
    ตอบ: พระสงฆ์ และ โดยเฉพาะเจ้าอาวาส.

    ๔๘. ใครเป็น สมาชิกพระศาสนจักร ?
    ตอบ: คริสตังค์ทั้งหลาย ผู้ได้รับศีลล้างบาป มีความเชื่อและอยู่ในโอวาทของพระสันตะปาปา และ พระสังฆราช เป็นสมาชิกพระศาสนจักร.

    ๔๙. เพื่อจะเอาตัวรอดไปสวรรค์ จำเป็นต้องเข้าเป็นสมาชิกพระศาสนจักรหรือ ?
    ตอบ: จำเป็น คือว่า คนที่ไม่ยอมขึ้นกับพระศาสนจักรด้วยความผิดของตนเอง ไม่มีทางรอด.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    พระเยซูเจ้าข้า โปรดประทานพระหรรษทาน ช่วยบรรดาที่รับภาระปกครองพระศาสนจักร โดยเฉพาะสมเด็จพระสันตะปาปา บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ และพระสังฆราชของเรา.

    ตอบลบ
  11. บทที่ ๑๑: ปลายทางของมนุษย์


    เราตายเพียงครั้งเดียว เป็นการจบชีวิตในโลกนี้ ชีวิตเปรียบเหมือนการเดินทางไกล ปลายทางอยู่ที่การพิพากษา แล้วเราจะไปสวรรค์ หรือ นรกตลอดนิรันดร. ฉันจะอุตส่าห์เรียนคำสอนดีๆ ตั้งใจฟังคำอธิบาย เพื่อจะได้รู้จักทางไปสวรรค์.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๕๐. ความตายคืออะไร ?
    ตอบ: ความตาย คือ วิญญาณ แยกออกจากกาย.

    ๕๑. วิญญา๊ณออกจากกายแล้ว เป็นอย่างไร ?
    ตอบ: วิญญาณจะถูกพิพากษาทันที เรียกว่า พิพากษาทีละคน.

    ๕๒. วิญญาณถูกพิพากษาแล้ว จะไปไหน ?
    ตอบ: วิญญาณจะไป ไฟชำระ หรือสวรรค์ หรือนรก สุดแล้วแต่บุญบาปซึ่งได้กระทำ.

    ๕๓. ใครไปไฟชำระ ?
    ตอบ: ผู้ที่ตายไปในสถานะพระหรรษทาน แต่ยังมีบาปเบา หรือยังติดโทษบาป ต้องไปไฟชำระ เมื่อใช้โทษครบแล้ว จึงจะไปสวรรค์ได้.

    ๕๔. ใครไปสวรรค์ได้ ?
    ตอบ: ผู้ที่ตายไปในสถานะพระหรรษทาน และได้ใช้โทษบาปครบบริบูรณ์แล้ว.

    ๕๕. ใครไปนรก ?
    ตอบ: ผู้ที่ตายขณะติดบาปหนัก ต้องไปนรก.

    ๕๖. เมื่อสิ้นพิภพ จะเป็นอย่างไร ?
    ตอบ: เมื่อสิ้นพิภพ เราทุกคนจะกลับเป็นขึ้นมา โดยวิญญาณของเราจะกลับมาร่วมสนิทกับร่างกายเดิมเสียใหม่.

    ๕๗. เรากลับเป็นขึ้นมาใหม่เมื่อสิ้นพิภพแล้ว จะเป็นอย่างไร ?
    ตอบ: เราจะถูกพิพากษาโดยเปิดเผย เรียกว่า “การพิพากษาประมวลพร้อม.”

    ๕๘. การพิพากษาประมวลพร้อม จะเป็นอย่างไร ?
    ตอบ: คือ เมื่อสิ้นพิภพ พระเยซูคริสตเจ้าจะเสด็จลงมาใหม่บนโลก เพื่อทรงพิพากษาเราต่อหน้ามนุษย์ทั้งหลาย ผู้ชอบธรรมจะไปสวรรค์นิรันดรทั้งกายและวิญญาณ คนอธรรมจะไปนรกนิรันดร ทั้งกายและวิญญาณด้วย.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    เยซู มารีอา โยเซฟ โปรดช่วยข้าพเจ้าเมื่อใกล้จะตายด้วยเทอญ.

    ตอบลบ
  12. บทที่ ๑๒: พระบัญญัติพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักร


    พระเป็นเจ้าประทานพระบัญญัติสิบประการ แก่โมอีแซส (โมเสส) ซึ่งเราเรียกว่า พระบัญญัติพระเป็นเจ้า.

    ต่อมาพระองค์ทรงมอบอำนาจแก่นักบุญเปโตร พระสันตะปาปาองค์แรก ที่จะกำหนดบัญญัติอื่นๆได้. เราเรียกบัญญัตินี้ว่า “พระบัญญัติพระศาสนจักร” เพราะสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเป็นประมุขแห่งพระศาสนจักร.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๕๙. ใครเป็นแบบฉบับดีที่สุด ซึ่งคริสตังค์ทุกคนต้องเดินตาม ?
    ตอบ: พระเยซูคริสตเจ้าเอง ทรงเป็นแบบฉบับดีที่สุด เพราะพระองค์ตรัสว่า “เราได้วางตนเป็นแบบอย่าง เพื่อว่าเราได้ทำอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้น.”

    ๖๐. ให้ท่องพระบัญญัติสิบประการ
    ตอบ: พระบัญญัติสิบประการ (หน้า ๖๑)
    ๑. จงนมัสการพระสวามี พระเป็นเจ้าผู้เดียวของเจ้า
    ๒. อย่าออกนามพระสวามีพระเป็นเจ้า โดยไม่สมเหตุ
    ๓. วันพระเจ้า อย่าลืมฉลองเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
    ๔. จงนับถือบิดามารดา
    ๕. อย่าฆ่าคน
    ๖. อย่าทำอุลามก
    ๗. อย่าลักขโมย
    ๘. อย่าใส่ความนินทา
    ๙. อย่าปลงใจในความอุลามก
    ๑๐. อย่ามักได้ทรัพย์ของเขา.

    ๖๑. พระเยซูคริสตเจ้าืทรงสรุปพระธรรมของพระองค์ เป็นบัญญัติสั้นๆ กี่ประการ ?
    ตอบ: สองประการ คือ
    ๑. ให้รักพระเป็นเจ้า
    ๒. ให้รักมนุษย์ทั้งหลาย.

    ๖๒. ให้ท่องพระบัญญัติของพระศาสนจักรที่สำคัญๆ
    ตอบ: พระบัญญัติพระศาสนจักร (หน้า ๖๒)
    ๑. จงฟังมิสซา และอย่าทำงานในวันอาทิตย์ และวันฉลองบังคับ
    ๒. จงอดอาหาร และอดเนื้อ ในวันบังคับ
    ๓. จงรับศีลแก้บาปอย่างน้อยปีละครั้ง และจงรับศีลมหาสนิทอย่างน้อยปีละครั้ง ในกำหนดปาสกา
    ๔. จงบำรุงพระศาสนจักรตามความสามารถ.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจ และเพราะรักพระองค์ ข้าพเจ้ายังรักผู้อื่นด้วย.

    ตอบลบ
  13. บทที่ ๑๓: บาป


    เด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่ เชื่อฟังพระเจ้า. เขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมทำบาปเลย. อย่าเอาอย่างเด็กๆในรูปนี้ บางคนกำลังล่องน้ำไปขโมยผลไม้ และถูกทำโทษ; สองคนข้างบนกำลังยืนนินทาผู้อื่น; ส่วนอีกคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือหยาบโลน.

    จงกลัวบาปยิ่งกว่าอันตรายใดๆ และตั้งใจจะไม่ยอมทำบาปเลย ทั้งบาปหนักและบาปเบา.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๖๓. ถ้าเราไม่ถือตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าหรือของพระศาสนจักร โดยรู้ตัวและเต็มใจ เราทำอะไร ?
    ตอบ: ถ้าเราไม่ถือตามพระบัญญัติ เราทำบาป.

    ๖๔. บาป คืออะไร ?
    ตอบ: บาป คือ การผิดต่อพระบัญญัติ โดยรู้ตัวและยินยอม.

    ๖๕. บาป มีกี่อย่าง ?
    ตอบ: บาปมี ๒ อย่าง คือ บาปหนัก และ บาปเบา.

    ๖๖. เมื่อไหร่เป็น บาปหนัก ?
    ตอบ: เป็นบาปหนัก เมื่อผิดต่อพระบัญญัติในข้อหนัก โดยรู้ดีๆว่าเป็นบาปหนัก และยินยอมเต็มใจทำ.

    ๖๗. บาปหนัก ให้โทษ อย่างไร ?
    ตอบ: บาปหนักทำลายชีวิตเหนือธรรมชาติในใจเรา,
    ทำให้เสียบุญกุศลที่ได้สะสมไว้.
    ทำให้เป็นศัตรูของพระเป็นเจ้าและสมถูกโทษนรก.

    ๖๘. หากได้กระทำบาปหนัก ต้องทำอย่างไร ?
    ตอบ: หากได้กระทำบาปหนัก ต้องอุตส่าห์เป็นทุกข์ถึงบาปอย่างบริบูรณ์, รีบไปแก้บาป และ ระวังอย่าทำบาปอันนั้นอีกต่อไป.

    ๖๙. เมื่อไรเป็นบาปเบา ?
    ตอบ: เป็นบาปเบา
    ๑. เมื่อผิดต่อพระบัญญัติในข้อเบา แม้โดยรู้ดีๆว่า เป็นบาปเบา และยินยอมเต็มใจทำ.
    ๒. เมื่อผิดต่อพระบัญญัติในข้อหนัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นบาปหนัก หรือไม่สู้เต็มใจทำ.

    ๗๐. เราทำเพียงบาปเบา จะต้องโทษด้วยหรือไม่ ?
    ตอบ: เราทำเพียงบาปเบา จะต้องถูกโทษชั่วคราวในโลกนี้ หรือในไฟชำระ.

    ๗๑. ท่าทางบาป คืออะไร ?
    ตอบ: ท่าทางบาป คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ชักชวนเราให้ทำบาป.

    ๗๒. พยศชั่ว หรือ บาปต้น คืออะไร ?
    ตอบ: พยศชั่ว หรือ บาปต้น คือความลำเอียงอันชั่ว ซึ่งโน้มนำเราให้ทำบาป.

    ๗๓. บาปต้น มีกี่อย่าง ?
    ตอบ: บาปต้น มีเจ็ดอย่าง คือ
    ๑. จองหอง
    ๒. ตระหนี่
    ๓. อุลามก
    ๔. อิจฉา
    ๕. โลภอาหาร
    ๖. โมโห
    ๗. เกียจคร้าน


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้กระทำบาป…ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปอีกเลย.


    ตอบลบ
  14. บทที่ ๑๔: พระหรรษทาน และ คำภาวนา


    ภาวนา คือ การยกจิตใจพูดกับพระเป็นเจ้า.
    เพื่อจะภาวนาดีๆ จำต้องสำรวมกายใจดีๆด้วย.
    คนที่คุยในวัด และ คิดแต่สนุก ไม่อาจภาวนาด้วยความจริงใจได้.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๗๔. ถ้าพระเยซูคริสตเจ้าไม่ทรงช่วยเหลือ เราจะดำรงชีพประสาคริสตังค์ และบรรลุสวรรค์ได้หรือไม่ ?
    ตอบ: ไม่ได้ และพระเยซูคริสตเจ้าเอง ยังได้ตรัสสอนว่า “หากเราไม่ช่วย ท่านจะทำอะไรไม่ได้เลย.”

    ๗๕. พระเยซูคริสตเจ้า ประทาน อะไรมาช่วยเหลือเรา ?
    ตอบ: พระเยซูคริสตเจ้าประทาน พระหรรษทาน.

    ๗๖. พระหรรษทาน คืออะไร ?
    ตอบ: พระหรรษทาน คือ ทานเหนือธรรมชาติ ซึ่งพระเป็นเจ้าประทานแก่เรา เพราะพระทัยดีของพระองค์อย่างเดียว.

    ๗๗. ตามปรกติ พระเยซูคริสตเจ้าโปรดประทานพระหรรษทานให้เรา โดยทางใดบ้าง ?
    ตอบ: ตามปรกติ พระเยซูคริสตเจ้าโปรดประทานพระหรรษทานให้เราโดยทาง ภาวนา และศีลศักดิ์สิทธิ์.

    ๗๘. ภาวนาบทไหน เป็นบทภาวนาอันยอดเยี่ยมเหนือบทอื่น ?
    ตอบ: บท “ข้าแต่พระบิดา” เป็นบทภาวนาอันยอดเยี่ยม เพราะพระเยซูคริสตเจ้าทรงแต่งไว้.

    ๗๙. ให้สวดบท “ข้าแต่พระบิดา”
    ตอบ: บทข้าแต่พระบิดา (ดูหน้า ๖๐)
    ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย* พระองค์สถิตในสวรรค์* พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ* พระอาณาจักรจงมาถึง* ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์

    ขอประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้* โปรดยกโทษข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น* อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นภัย. อาแมน

    ขอประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้* โปรดยกโทษข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น* อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นภัย. อาแมน

    ๘๐. นอกจากบท “ข้าแต่พระบิดา” มีบทไหนที่เร้าความวางใจของเรามากที่สุด ?
    ตอบ: มีบท “วันทามารีอา” ซึ่งยังเรียกว่า “บทคำนับของเทวดา.”

    ๘๑. ให้สวดบท “วันทามารีอา”
    ตอบ: บทวันทามารีอา (ดูหน้า ๖๐)
    วันทามารีอา* เปี่ยมด้วยหรรษทาน พระสวามีสถิตกับท่าน ผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ* และพระเยซู โอรสของท่านทรงบุญนักหนา.

    สันตะมารีอา มารดาพระเจ้า* โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าแต่พระเป็นเจ้า ลูกขอขอบพระคุณต่างๆ ที่ประทานแก่ลูกตลอดมาจนทุกวันนี้.


    ตอบลบ
  15. บทที่ ๑๕: ศีลศักดิ์สิทธิ์


    เพื่อเลี้ยงร่างกาย พระเป็นเจ้าประทาน อาหารต่างๆ.

    เพื่อเลี้ยงวิญญาณ พระองค์ประทาน ศีลศักดิ์สิทธิ์.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๘๒. ศีลศักดิ์สิทธิ์ คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลศักดิ์สิทธิ์ คือ เครื่องหมายอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าทรงตั้งขึ้น เพื่อผลิต หรือ เพื่อทวีพระหรรษทาน.

    ๘๓. ศีลศักดิ์สิทธิ์ มีอยู่กี่ประการ ?
    ตอบ: มีอยู่ ๗ ประการ คือ
    ๑. ศีลล้างบาป
    ๒. ศีลกำลัง
    ๓. ศีลแก้บาป
    ๔. ศีลมหาสนิท
    ๕. ศีลเจิมคนไข้
    ๖. ศีลอนุกรม (ศีลบวช)
    ๗. ศีลกล่าว (ศีลแต่งงาน)

    ๘๔. รับศีลศักดิ์สิทธิ์โดยมิได้เตรียมตัวตามเงื่อนไขที่จำเป็น เป็นบาปอะไร ?
    ตอบ: รับศีลศักดิ์สิทธิ์โดยมิได้เตรียมตัวตามเงื่อนไขที่จำเป็น เป็นบาปทุราจาร.

    ๘๕. ศีลล้างบาป คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลล้างบาป คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งลบล้างบาปกำเนิด ประทานพระหรรษทานแก่เรา และทำให้เราเป็นคริสตังค์ คือเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า และของพระศาสนจักร.

    ๘๖. จำเป็น ต้องรับศีลล้างบาป หรือไม่ ?
    ตอบ: จำเป็นต้องรับศีลล้างบาปทีเดียว เพราะพระเยซูคริสตเจ้าตรัสว่า “ถ้าผู้ใดมิได้เกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิตเจ้า จะเข้าสวรรค์ไม่ได้.”

    ๘๗. ศีลกำลัง คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลกำลัง คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประทานพระจิตเจ้าพร้อมกับพระหรรษทานของพระองค์ให้แก่เรา ทำให้เราเป็นคริสตังค์บริบูรณ์.

    ๘๘. ศีลเจิมคนไข้ คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลเจิมคนไข้ คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรเทาวิญญาณและร่างกายของคนไข้.

    ๘๙. ศีลอนุกรม (ศีลบวช) คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลอนุกรม คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบวชเสกบุคคลให้เป็นพระสงฆ์.

    ๙๐. ศีลกล่าว (ศีลแต่งงาน) คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลกล่าว คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรวมชายหญิงสองคนต่อหน้าพระเป็นเจ้า เพื่อจะได้สร้างครอบครัวคริสตังค์.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    พระเยซูเจ้าข้า ขอโปรดให้ลูกเตรียมตัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆด้วยดีเสมอ.

    ตอบลบ
  16. บทที่ ๑๖: ศีลแก้บาป


    ชายผู้หนึ่งมีลูก ๒ คน คนเล็กได้ขอแบ่งมรดกจากบิดา แล้วรวบรวมข้าวของไปอยู่เมืองไกล. ที่นั่นเขาใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย เมื่อหมดตัวต้องอดอยากลำบากมาก เขาจึงสำนึกตนคิดถึงบิดา. ฝ่ายบิดาผู้ใจดี เฝ้าคอยการกลับมาของลูกเสมอ. เมื่อเห็นลูกกลับมาขอโทษอย่างจริงใจ ก็ยินดียกโทษให้.

    พระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องนี้ เพื่อสอนคนบาป. เมื่อได้ทำผิดไปแล้ว จงลุกขึ้นไปแก้บาป. พระองค์ทรงเฝ้ารอการกลับใจของเรา ด้วยพระทัยดีเสมอ. (ลูกา บท ๑๕)


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๙๑. ศีลแก้บาป คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลแก้บาป คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งยกบาปที่เราได้กระทำ หลังแต่รับศีลล้างบาปแล้ว.

    ๙๒. เรารับศีลแก้บาป เวลาไหน ?
    ตอบ: เรารับศีลแก้บาป เวลาที่พระสงฆ์อวยพรยกบาปให้.

    ๙๓. เพื่อแก้บาปอย่างดี ต้องถือกี่ประการ ?
    ตอบ: เพื่อแก้บาปอย่างดี ต้องถือ ๕ ประการคือ
    ๑. สวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
    ๒. พิจารณาบาป
    ๓. เป็นทุกข์ถึงบาป
    ๔. สารภาพบาป
    ๕. ตั้งใจจะชดเชยใช้โทษบาป.

    ๙๔. ความทุกข์ถึงบาป คืออะไร ?
    ตอบ: ความทุกข์ถึงบาป คือการเสียดายโดยจริงใจ ที่ตนได้กระทำผิดต่อพระเป็นเจ้า พร้อมทั้งมีความตั้งใจอย่างมั่นคงว่า จะไม่กระทำผิดต่อพระองค์สืบไป.

    ๙๕. ให้สวดบทแสดงความทุกข์.
    ตอบ: บทแสดงความทุกข์
    ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้กระทำบาป* เพราะบาปเรียกร้องอาชญาของพระองค์* แต่เป็นต้นเพราะมันทำเคืองพระทัยพระองค์ ซึ่งดีและน่ารักยิ่งนัก* เดชะพระหรรษทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่า* จะไม่ทำบาปอีกเลย ทั้งจะอุตส่าห์ใช้โทษ* ขอทรงพระกรุณายกบาปแก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด. อาแมน

    ๙๖. เวลาแก้บาป จำต้องบอกบาปอะไร ?
    ตอบ: เวลาแก้บาป ต้องบอกบาปหนักทุกประการที่ตนได้ทำ ว่าเป็นบาปอะไร ได้ืืทำกี่ครั้ง และบอกกรณีอันหนักที่เกี่ยวกับบาปนั้น.

    ๙๗. ถ้าอำพรางบาปหนักหนึ่งข้อ จะได้รับยกบาปอื่นที่ได้สารภาพบาปหรือไ่ม่ ?
    ตอบ: ถ้าอำพรางบาปหนักแม้แต่ข้อเดียว ก็ไม่ได้รับยกบาปแม้แต่ข้อเดียว, มิหนำซ้ำ ยังกลับทำบาปทุราจารอีกด้วย.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    “ข้าแต่พระเป็นเจ้า ลูกได้ทำผิดต่อพระองค์ ลูกไม่สมควรจะเป็นลูกของพระองค์อีก ขอโปรดรับลูกไว้ต่อไปด้วยเถิด.”


    ตอบลบ
  17. บทที่ ๑๗: แบบแผนสารภาพบาป


    ถ้าฉันอยากแก้บาปดีๆ ฉันต้องตั้งใจอ่านคำแนะนำวิธีไปแก้บาป ที่มีอยู่ในหนังสือคำสอน.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๙๘. พิจารณาบาปแล้ว ก่อนจะไปแก้บาป ต้องสวดบทอะไร ?
    ตอบ: พิจารณาบาปแล้ว ก่อนจะไปแก้บาป ต้องสวดบท “ข้าพเจ้าขอสารภาพบาป” (ดูหน้า ๖๓)
    ข้าพเจ้าขอสารภาพ
    ข้าพเจ้าขอสารภาพ ต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และต่อพี่น้องด้วย ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย, วาจา, ใจ และด้วยการละเลย ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอก เพียงครั้งเดียว)

    ดังนั้นขอพระนางมารี ผู้เป็นพรหมจารีเสมอ* ขอเทวดา, นักบุญทั้งหลาย และพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ.

    ๙๙. เมื่อเข้าไปถึงที่แก้บาป ต้องทำอะไร ?
    ตอบ: เมื่อไปถึงที่แก้บาป ต้องคุกเข่า, ทำสำคัญมหากางเขน แล้วกล่าวว่า “คุณพ่อที่เคารพ กรุณาอวยพรแก่ข้าพเจ้า เพราะได้ทำบาป”

    ๑๐๐. พระสงฆ์อวยพรให้เแล้ว ต้องว่าอย่างไรต่อไป ?
    ตอบ: พระสงฆ์อวยพรให้แล้ว ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบว่า:
    ๑. ตั้งแต่แก้บาปครั้งสุดท้ายมา เป็นเวลานาน (เท่าไหร ?)่
    ๒. พระสงฆ์ยกบาปแล้ว (หรือไม่ ?)
    ๓. กิจใช้โทษบาปได้ทำแล้ว (หรือยัง ?)

    ๑๐๑. เมื่อแจ้งให้พระสงฆ์ทราบดั่งนี้แล้ว ต้องทำอะไรต่อไป ?
    ตอบ: ต้องบอกบาป และตอบคำถามของพระสงฆ์โดยสัตย์ซื่อ.

    ๑๐๒. บอกบาปแล้ว ต้องสวดว่าอย่างไรต่อไป ?
    ตอบ: บอกบาปแล้วต้องสวดว่า “และขอสารภาพบาปอื่นๆ ที่ได้ลืมไป และที่เคยสารภาพครั้งก่อนๆด้วย.”

    ๑๐๓. สวดบท “และขอสารภาพบาปอื่นๆ.” แล้วต้องทำอะไรต่อไป ?
    ตอบ: ต้อง ๑. ฟังพระสงฆ์เตือนใจ
    ๒. รับกิจใช้โทษที่พระสงฆ์กำหนด และ
    ๓. ตั้งใจสวดบทแสดงความทุกข์ ขณะที่พระสงฆ์ยกบาป.

    ๑๐๔. ออกจากที่แก้บาปแล้ว ต้องทำอะไร ?
    ตอบ: ออกจากที่แก้บาปแล้ว ต้อง:
    ๑. สมนาคุณพระเป็นเจ้า
    ๒. คิดถึงคำเตือนใจของพระสงฆ์
    ๓. ตั้งใจพยายามจะไม่ทำบาปอีกต่อไป
    ๔. รีบทำกิจใช้โทษที่กำหนดให้.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ข้าพเจ้าขอสารภาพ
    ข้าพเจ้าขอสารภาพ ต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และต่อพี่น้องด้วย ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย, วาจา, ใจ และด้วยการละเลย ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอก เพียงครั้งเดียว)

    ดังนั้นขอพระนางมารี ผู้เป็นพรหมจารีเสมอ* ขอเทวดา, นักบุญทั้งหลาย และพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ.

    ตอบลบ
  18. บทที่ ๑๘: ศีลมหาสนิท


    พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท เพื่อมอบพระองค์เป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของเรา เราเกิดมาต้องกินอาหาร เพื่อช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีกำลังแข็งแรง. ฝ่ายวิญญาณก็เช่นกัน เรามีศัตรูคือปีศาจ, คนชั่ว และตัวเราเอง คอยมาล่อลวง. เราจึงต้องอาศัยศีลมหาสนิท เพื่อช่วยบำรุงวิญญาณให้แข็งแรง สามารถต่อสู้กับศัตรูฝ่ายวิญญาณได้.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑๐๕. ศีลมหาสนิท คืออะไร ?
    ตอบ: ศีลมหาสนิท คือ ศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบรรจุพระกาย, พระโลหิต, พระวิญญาณ และพระเทวภาพของพระเยซูคริสตเจ้า ภายใต้รูปปรากฏของปังและน้ำองุ่น.

    ๑๐๖.พระเยซูคริสตเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิทเมื่อไหร่ ?
    ตอบ: พระเยซูคริสตเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท เวลาค่ำวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ คือวันก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน.

    ๑๐๗. ก่อนพระสงฆ์เสกศีล มีอะไรบนพระแท่น ?
    ตอบ: ก่อนพระสงฆ์เสกศีล มีแต่ปังและน้ำองุ่น.

    ๑๐๘. เสกศีลแล้ว มีอะไรบนพระแท่น ?
    ตอบ: เสกศีลแล้ว มีพระเยซูคริสตเจ้าทั้งครบ อยู่ใต้รูปปรากฏของปัง และยังอยู่ครบใต้รูปปรากฏของน้ำองุ่น.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ขอสรรเสริญ นมัสการ และสมนาคุณพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เสมอเป็นนิตย์. อาแมน.


    ตอบลบ
  19. บทที่ ๑๙: การรับศีลมหาสนิท


    เพื่อจะรับศีลมหาสนิทด้วยดี ต้องเตรียมตัวทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ. พระเยซูเจ้าเสด็จมาในวิญญาณ โดยผ่านทางร่างกาย.

    วิญญาณที่เตรียมตัวด้วยดี คือ วิญญาณที่ปราศจากบาปหนัก. ผู้ใดไปรับศีลมหาสนิทโดยมีบาปหนัก ก็เท่ากับเชิญพระเยซูเจ้าเข้ามาในวิญญาณ ที่เป็นของปีศาจ.


    ~~~บทเรียน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑๐๙. รับศีลมหาสนิท คืออะไร ?
    ตอบ: รับศีลมหาสนิท คือ รับพระเยซูคริสตเจ้าในแผ่นปัง.

    ๑๑๐. ฝ่ายวิญญาณ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
    ตอบ: ฝ่ายวิญญาณ ต้อง
    ๑. อยู่ในสถานะพระหรรษทาน
    ๒. มีเจตจำนงอันซื่อตรง

    ๑๑๑. ถ้าผู้ใดไม่อยู่ในสถานะพระหรรษทาน บังอาจไปรับศีลมหาสนิท เขาทำบาปอะไร ?
    ตอบ: ถ้าผู้ใดไม่อยู่ในสถานะพระหรรษทาน บังอาจไปรับศีลมหาสนิท เขาทำบาปทุราจารองค์พระเยซูคริสตเจ้า.

    ๑๑๒. ต้องมีเจตจำนงอันซื่อตรง แปลว่าอะไร ?
    ตอบ: ต้องมีเจตจำนงอันซื่อตรง แปลว่า รับศีลเพื่อเป็นที่พอพระทัยของพระเป็นเจ้า.

    ๑๑๓. ฝ่ายกายต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
    ตอบ: ฝ่ายกาย ต้อง
    ๑. อดอาหารเพื่อรับศีลมหาสนิท
    ๒. แต่งตัวอย่างสุภาพ.

    ๑๑๔. อดอาหารเพื่อรับศีลมหาสนิท แปลว่าอะไร ?
    ตอบ: อดอาหารเพื่อรับศีลมหาสนิท แปลว่า ก่อนจะรับศีลมหาสนิท ต้องอดอาหารและเครื่องดื่มหนึ่งชั่วโมง. ส่วนน้ำ ไม่ห้าม.

    ๑๑๕. ก่อนรับศีลมหาสนิท ยังต้องทำอะไรอีก ?
    ตอบ: ก่อนรับศีลมหาสนิท ต้องสนทนากับพระเยซูคริสตเจ้า และสวดภาวนา บทแสดงความเชื่อในศีลมหาสนิท บทแสดงความทุกข์ถึงบาป, บทแสดงความรักต่อพระองค์ และความปรารถนาที่จะรับศีล.

    ๑๑๖. เมื่อถึงเวลาจะรับศีลมหาสนิท ต้องทำอย่างไร ?
    ตอบ: เมื่อถึงเวลาที่จะรับศีลมหาสนิท ต้องประนมมือ เดินอย่างสงบเสงี่ยม ไปที่โต๊ะศักดิ์สิทธิ์.

    ๑๑๗. เมื่อพระสงฆ์ส่งศีล ต้องทำอย่างไร ?
    ตอบ: เมื่อพระสงฆ์ส่งศีล ต้องเงยศีรษะ อ้าปาก แลบลิ้นปกริมฝีปากล่าง.

    ๑๑๘. รับแผ่นศีลแล้ว ต้องทำอย่างไร ?
    ตอบ: รับแผ่นศีลแล้วต้องปิดปาก. พอศีลเปียกแล้ว จงกลืนเสีย.

    ๑๑๙. รับศีลมหาสนิทแล้ว ต้องทำอะไร ?
    ตอบ: รับศีลมหาสนิทแล้ว ต้องประนมมือกลับไปที่เดิม, แล้วสวดภาวนานมัสการ, ขอบคุณ, ถวายตัว และวอนขอสิ่งที่ต้องประสงค์.


    ~~~ภาวนา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาในตัวข้าพเจ้า แต่ขอตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์.


    ตอบลบ