ลูกปัสสาวะบ่อย ผิดปกติหรือเปล่า ?
ลูกปัสสาวะบ่อย ผิดปกติหรือเปล่า ? (Mother & Care)
ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นลูกวัยซนเข้าห้องน้ำบ่อยทุก ๆ 5 -10 นาทีบ้าง หรือวันละเป็นสิบ ๆ รอบ หรือกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ อย่านิ่งดูดายค่ะ แม้ลูกจะไม่ได้มีอาการแสดงว่าเจ็บป่วยอย่างอื่น แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะมีโรคอื่น ๆ หลบซ่อนอยู่ได้
ทราบได้อย่างไรว่าลูกปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
สำหรับเด็กอายุก่อน 5 ปี โดยทั่วไปแล้วการปัสสาวะบ่อยที่ผิดปกติในเด็กช่วงอายุนี้ มักมีอาการอย่างอื่นให้สังเกตร่วมด้วย เช่น เด็กผู้ชายปัสสาวะไม่พุ่งเป็นสาย ปัสสาวะเป็นช่วง ๆ หรือเด็กจะร้องทุกครั้งที่ปัสสาวะ
สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ปัสสาวะบ่อยกว่าที่เคยเป็น คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งคุณครูก็จะสังเกตได้อย่างชัดเจน เพราะเด็กในอายุช่วงนี้สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่แล้ว คือจะปัสสาวะไม่เกิน 6 ครั้งต่อวัน
สาเหตุที่เด็ก ๆ ปัสสาวะบ่อย
มีสาเหตุหลักจากทางร่างกายและทางจิตใจ ดังต่อไปนี้ค่ะ
สาเหตุจากทางร่างกาย
ส่วนใหญ่เกิดจากโรคของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น มีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งแบ่งตามตำแหน่งของการติดเชื้อแบ่งออกเป็น 2 โรค คือ
1.โรคกรวยไตอักเสบ
ในเด็กจะมีไข้สูง ปวดบั้นเอว ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะแสบขัด คลื่นไส้ อาเจียน แต่อาการในเด็กเล็กไม่จำเพาะอาจมีไข้สูง ร้องกวน ดูดนมน้อยลง เด็กเล็กควรได้รับการตรวจปัสสาวะทุกครั้งเมื่อมีไข้ โดยตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ
2.โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เด็กมีอาการปัสสาวะบ่อย แต่มีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะครั้งละน้อย ๆ กลั้นไม่ได้ ปัสสาวะขุ่นบางครั้งอาจมีเลือดปน เด็กบางคนมีปัสสาวะรดที่นอนเกิดขึ้นใหม่ หลังจากที่เคยควบคุมการขับถ่ายได้แล้ว
1.โรคกรวยไตอักเสบ
ในเด็กจะมีไข้สูง ปวดบั้นเอว ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะแสบขัด คลื่นไส้ อาเจียน แต่อาการในเด็กเล็กไม่จำเพาะอาจมีไข้สูง ร้องกวน ดูดนมน้อยลง เด็กเล็กควรได้รับการตรวจปัสสาวะทุกครั้งเมื่อมีไข้ โดยตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ
2.โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เด็กมีอาการปัสสาวะบ่อย แต่มีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะครั้งละน้อย ๆ กลั้นไม่ได้ ปัสสาวะขุ่นบางครั้งอาจมีเลือดปน เด็กบางคนมีปัสสาวะรดที่นอนเกิดขึ้นใหม่ หลังจากที่เคยควบคุมการขับถ่ายได้แล้ว
การวินิจฉัย
ทำให้โดยการตรวจปัสสาวะและเพาะเชื้อปัสสาวะ จะพบเม็ดเลือดขาว หรือเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ โดยคุณหมอจะนำปัสสาวะไปเพาะเชื้อ เพื่อจะบอกชนิดของแบคทีเรียที่ก่อโรค และตรวจการตอบสนองของเชื้อต่อยาปฏิชีวนะ เนื่องจากการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ อาจเป็นอาการนำที่บ่งบอกถึงความผิดปกติแต่กำเนิดของไต และทางเดินปัสสาวะ
ดังนั้น ในเด็กที่เป็นกรวยไตอักเสบทุกราย หรือเด็กที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือมีการติดเชื้อซ้ำ ควรได้รับการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ การตรวจอัลตร้าซาวด์ทางเดินปัสสาวะ คุณหมอจะทำการฉีดสีเข้าที่ท่อปัสสาวะเพื่อหาความผิดปกติ เพราะอาจพบความผิดปกติของไตและทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง
ดังนั้น ในเด็กที่เป็นกรวยไตอักเสบทุกราย หรือเด็กที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือมีการติดเชื้อซ้ำ ควรได้รับการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ การตรวจอัลตร้าซาวด์ทางเดินปัสสาวะ คุณหมอจะทำการฉีดสีเข้าที่ท่อปัสสาวะเพื่อหาความผิดปกติ เพราะอาจพบความผิดปกติของไตและทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง
การรักษา
สามารถรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ถ้าเด็กกินยาไม่ได้ หรือมีอาการขาดน้ำ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้ยาปฏิชีวนะในหลอดเลือดดำ ซึ่งระยะเวลาที่ให้ยาประมาณ 10-14 วัน ในโรคกรวยไตอักเสบ แต่ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่า คือประมาณ 5-7 วันค่ะ
สอนลูกดูแลตัวเองอย่างไร
สอนลูกให้ทำความสะอาดหลังการขับถ่ายให้ถูกวิธี โดยเช็ดทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในอุจจาระ เป็นตัวก่อโรคที่สำคัญของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ดื่มน้ำมาก ๆ และปัสสาวะให้เป็นเวลา ในเด็กควรปัสสาวะทุก 3-4 ชั่วโมง และก่อนนอนไม่กลั้นปัสสาวะ เพราะปัสสาวะที่ค้างนาน ๆ ในกระเพาะปัสสาวะ เป็นอาหารที่ดีของเชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุทางจิตใจ
ปัญหาความเคร่งเครียด ความกังวล ซึ่งอาจเกิดจากครอบครัวหรือที่โรงเรียน เช่น ช่วงสอบ ซึ่งมักเป็นชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะมีอาการปัสสาวะบ่อยในช่วงเริ่มไปโรงเรียน คือช่วงอายุ 4-9 ปี
ลักษณะเด่นของอาการปัสสาวะบ่อยด้วยสาเหตุทางจิตใจนี้ คือ เด็กจะปัสสาวะบ่อยเฉพาะตอนกลางวัน ตอนกลางคืนกลับนอนหลับสบาย หรือบางครั้งอาจจะไม่เป็นอะไรเลย แต่ขาดการฝึกฝนในเรื่องของการขับถ่าย คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามสังเกต และพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อช่วยวินิจฉัยและรักษา ซึ่งก็จะแตกต่างกันตามสาเหตุ เช่น การรักษาด้วยการบำบัดจิต การรักษาโดยใช้ยา การรักษาทุกชนิดที่กล่าวมา จำเป็นต้องอาศัยความศรัทธา ความเข้าใจ และความร่วมมือของคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น