โปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความ เพื่อคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ
ในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีส่วนที่สร้างความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เรียกว่า AI Writer หรือ AI ช่วยเขียนบทความ ที่ได้สร้างจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ด้านการเขียนคอนเทนต์ หรือแม้กระทั่งการค้นหาข้อมูล ที่นับได้ว่าได้รับการพัฒนาจนเกือบจะทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์เลยทีเดียว
แต่ถ้าจะพูดถึง AI Writer ว่าสามารถนำมาใช้แทนแรงงานมนุษย์ได้คงตอบไม่เต็มปาก เพราะตัวโปรแกรมยังมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้ บทความนี้จะมาแนะนำโปรแกรม AI เขียนบทความ ทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้นักเขียนคอนเทนต์ หรือผู้ที่สนใจได้ศึกษา และใช้ให้เป็นประโยชน์
ไขข้อสงสัย เอไอ (AI) คืออะไร
AI หรือ Artificial Intelligence คือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เลียนแบบความสามารถของมนุษย์ ตั้งแต่การคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ เพื่อเป้าหมายในการวางแผน เรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ และสามารถรวบรวมมาเป็นข้อมูลสำเร็จที่สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โดยสิ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ และพัฒนาระบบได้ คือ Matchine Learning ฟันเฟืองของระบบ AI ที่จะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับรู้มาพัฒนาการทำงานโดยที่ไม่มีมนุษย์คอยควบคุม ทั้งนี้ ตัวระบบนี้ยังทำให้ภายในอนาคตหากมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ มนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องคอยป้อนข้อมูลใหม่ แต่ตัวคอมพิวเตอร์จะประเมินสถานการณ์ และอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ ได้เอง
รวมเด็ด! 7 โปรแกรม AI Writer ช่วยเขียนบทความให้มีประสิทธิภาพ
แม้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั้นยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI นั้นเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้การทำงานสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำ SEO ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบให้มีการวิเคราะห์ฟีเจอร์นี้อย่างน่าสนใจ มาดู 7 โปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความที่น่าสนใจ โดยมีทั้งโปรแกรมที่เสียเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. Chat GPT
Chat GPT เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 และได้รับความนิยมมากสำหรับนักเขียนคอนเทนต์ที่ต้องการหาข้อมูล และสร้างไอเดียสำหรับการทำงาน โดยตัวโปรแกรม AI ช่วยเขียน Content ตัวนี้สร้างปรากฏการณ์ที่โดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ คือสามารถรองรับภาษาไทยได้ในระดับที่ดีเลย อีกทั้งยังประดิษฐ์คำ และภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติเสมือนมีมนุษย์มาเขียนเอง
นอกจากนี้ Chat GPT ยังมีคุณสมบัติที่หลากหลายอื่นๆ เช่น เขียนโปรแกรม เขียนโค้ด เขียนอีเมล ช่วยแต่งเพลง หรือการหาสูตรทางคณิตศาสตร์ เป็นต้น เรียกได้ว่าโปรแกรมเดียวสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ครอบคลุมมากเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่เริ่มใช้ AI Writer เจ้าของธุรกิจออนไลน์ หรือ Content Creator ปัจจุบันมีทั้งแบบใช้งานฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยจะมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 709 บาทต่อเดือน
2. Rytr
สำหรับ AI เขียนบทความ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย คือ Rytr ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่บริษัทที่ต้องการเขียนเพื่อโฆษณา ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การรองรับภาษาได้มากกว่า 30 ภาษา และมีฟีเจอร์ในการใช้งานที่หลากหลาย โดยมีการออกแบบให้ USER Interface มีการใช้งานง่าย อีกทั้งยังสามารถเขียนบทความ อีเมล คิดคำเพื่อโฆษณา หรือการทำ SEO ลงในเว็บไซต์หรือในโซเชียลมีเดีย แม้ตัวเนื้อหาที่ใช้โปรแกรมนี้เขียนจะไม่เป็นธรรมชาติเท่า Chat GPT แต่ข้อดีของ Rytr คือความคุ้มค่า ทั้งในด้านของราคา และเครื่องมือที่ครอบคลุมการใช้งานมากกว่า โดยเหมาะกับผู้ที่เริ่มใช้งาน AI Writer หรือนักเขียนคอนเทนต์ SEO เป็นต้น
นอกจากนี้ Rytr ยังมี Text Editor ที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถทำการใส่รายละเอียดทั้งหัวข้อ ย่อหน้า หรือหากต้องการเพิ่มข้อมูล หรือลบข้อมูลที่ไม่ต้องการ เพื่อแก้ไขให้ข้อมูลกระชับ และเข้าใจง่ายก็ได้เช่นกัน
ปัจจุบันมีทั้งแบบใช้งานฟรี แต่มีข้อจำกัดการใช้งานอยู่ 10,000 คำเพียงเท่านั้น แต่ถ้าต้องการใช้งานแบบเต็มพิกัดสามารถเลือกการใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่ายได้เลย โดยจะมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 319 บาทต่อเดือน และอีกราคาคือประมาณ 1,029 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้ฟีเจอร์มากน้อยแค่ไหน
3. Frase.io
ชาว SEO Content Writer มีเฮ! เพราะโปรแกรม Frase.io นี้เป็นโปรแกรม AI อัจริยะที่ช่วยเขียนบทความ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีการผสมผสานระบบของ AI Writer เข้ากับ SEO Competitive Research อย่างกลมกล่อม ทำให้บทความติดอันดับการค้นหาได้รวดเร็วมากขึ้น พร้อมกับความสามารถในการประมวลผลภาษาไทยที่อยู่ในระดับดีเลยทีเดียว
โดยจุดเด่นของ Frase.io คือฟีเจอร์ Research ที่จะทำการวิเคราะห์คู่แข่ง และแสดงผลลัพธ์ของข้อมูลเพื่อให้สามารถเขียน Content ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Optimize ที่จะทำการเปรียบเทียบกับบทความของเรากับของคู่แข่ง เพื่อที่จะสามารถพิจารณาการเขียนคอนเทนต์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง และทำให้ติดอับดับได้ดีขึ้นนั่นเอง
ในปัจจุบันนั้นยังไม่มีเวอร์ชันสำหรับการใช้งานฟรี และสำหรับค่าบริการต่อเดือนนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,951 บาท สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ไม่มีจำกัดคำเลย
4. Writesonic
Writesonic ตัวช่วยนักเขียน Content ภาษาอังกฤษ ที่มีการใช้เทคโนโลยี NLP (Natural Language Processing) ที่ทำให้บทความที่ออกมามีคุณภาพ และมีความลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติได้เสมือนมนุษย์มาเขียนเอง โปรแกรม AI ตัวนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่ราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และได้ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย โดยมีเครื่องมือหลากหลายกว่า 80 ฟีเจอร์เลยทีเดียว ซึ่งแต่ละเครื่องมือนั้นมีความสามารถครอบคลุมในหมวด Marketing ครบทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็น Ecommerce Product Descriptions, Market Research และ Sale & Ads Marketing เป็นต้น
เหมาะสำหรับนักเขียนที่ต้องการใช้ AI ช่วยเขียนบทความที่มีคุณภาพสูง โปรแกรมนี้ยังไม่มีเวอร์ชั่นสำหรับการใช้งานฟรี และสำหรับค่าบริการต่อเดือนนั้นอยู่ที่ประมาณ 709 บาท
5. Copy.AI
หากกำลังหาโปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความภาษาไทยดีๆ Copy.AI เป็นตัวเลือกที่ดีเลย เพราะสามารถรองรับภาษาไทยได้ดีกว่า AI Writer โปรแกรมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์พิเศษกว่า 90 ตัวเลือกที่ช่วยให้สายนักเขียนคอนเทนต์ประเภท SEO ทำงานง่ายขึ้น หรือนักเขียนสาย Copywriting ที่ต้องการไอเดียการเขียนแคปชัน หัวข้อ โฆษณา หรือสโลแกนที่น่าดึงดูดใจ
การใช้งานสามารถเลือกได้ทั้งแบบใช้งานฟรี แต่มีการจำกัดคำอยู่ 2,000 คำเท่านั้น หากต้องการใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมสามารถเลือกการใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1,738 บาทต่อเดือนก็ได้เช่นกัน
6. Jasper
หากพูดถึง Jasper คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็น AI Writer ที่ได้ชื่อว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถช่วยในการทำการตลาด และการเขียนบทความที่ดีเป็นอันดับต้นๆ เลย โดยมีฟีเจอร์ภาษาที่โดดเด่นที่สามารถรองรับได้ถึง 30 ภาษา แม้จะยังไม่รองรับภาษาไทย แต่ก็มีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น เทมเพลตให้ได้เลือกใช้กว่า 50 แบบเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีตัวช่วยในการเขียนคอนเทนต์ SEO เหมาะสำหรับนักเขียนคอนเทนต์ SEO นักเขียนด้านการตลาด หรือนักธุรกิจที่ต้องการงานเขียนที่มีคุณภาพ และต้องการสร้างจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ธุรกิจกลายมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น
การใช้งานสามารถเลือกได้ทั้งแบบใช้งานฟรี แต่ถ้าหากต้องการใช้งานฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติม สามารถเลือกการใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1,738 บาทต่อเดือนก็ได้เช่นกัน
7. YouChat
ปิดท้ายด้วย YouChat ตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับนักเขียน Content เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติที่ครอบคลุม มีการใช้งานคล้ายกับ AI Writer อย่าง Chat GPT และ Jasper ตรงที่มีการใช้ระบบ GPT-3 หรือระบบที่สามารถสร้างบทสนทนาถาม-ตอบเป็นภาษาอังกฤษ แปลภาษา และเปลี่ยนรูปแบบภาษาให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
กล่าวคือ หากมีคำถามใดที่สงสัยสามารถพิมพ์ถามไปได้เลย ต่อมาตัวระบบจึงจะตอบกลับมาด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์นั่นเอง ทั้งนี้ YouChat ยังช่วยสนับสนุนความคิด หรือเสนอไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ด้วยการบอกแหล่งอ้างอิงบทความ หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องบน Google ตรงบริเวณด้านข้างของหน้าจออีกด้วย
หากสนใจก็สามารถเข้าไปทำความเข้าใจ และลองใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ ซึ่งการใช้งานนั้นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
AI Writer กับการเขียนบทความ SEO
จะเห็นได้ว่าการใช้ AI Writer นั้นมีส่วนช่วยในการเขียนคอนเทนต์ SEO อย่างมาก แต่จะเขียนอย่างไรให้ตรงตามหลัก SEO และสามารถใช้คุณสมบัติของโปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำแนะนำสำหรับการใช้โปรแกรม AI Writer เพื่อเขียนบทความตามหลัก SEO มีดังนี้
- เลือกโปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความที่มีคุณภาพ เพราะ AI Writer นั้นมีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือก AI ช่วยเขียนบทความให้เหมาะสมกับความต้องการ และเลือกโปรแกรมที่มีคุณภาพจึงเป็นขั้นตอนหลักๆ ที่สำคัญไม่น้อยเลย
- เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ก่อนเริ่มเขียน Content ขั้นตอนการเลือกคีย์เวิร์ดเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะหากคีย์เวิร์ดมีความเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่จะเขียน และมีปริมาณการค้นหาที่สูง จะช่วยให้คอนเทนต์ติดหน้าแรกๆ ได้ง่ายมากขึ้น
- วางตำแหน่งคีย์เวิร์ดให้เหมาะสม ตามหลัก SEO การวางตำแหน่งคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมก็เป็นหลักเกณฑ์สำคัญ โดยมีตำแหน่งสำคัญที่ควรวางคีย์เวิร์ด ได้แก่ บริเวณชื่อเรื่อง หัวข้อย่อย และเนื้อหาหลัก เป็นต้น
- เขียนคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ เพราะนอกจากการเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสม หรือการวางคีย์เวิร์ดตรงจุดที่สำคัญใน Content แล้ว การเขียนคอนเทนต์ให้มีคุณภาพก็เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งคอนเทนต์ควรจะมีความน่าสนใจ และให้ความรู้แก่ผู้อ่านอย่างแท้จริง
- ปรับให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพ โครงสร้างของเว็บไซต์นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเว็บไซต์ใช้งานง่าย และมีความเร็วในการโหลดไม่นานมาก เว็บไซต์ก็จะถูกจัดให้อยู่ในระดับที่เป็นเว็บไซต์คุณภาพ สามารถเพิ่มยอดเข้าชมมากยิ่งขึ้นไปอีก
- สร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเข้ามายังเว็บไซต์ของเรา หากทำการลิงค์บทความอื่นๆ มายังบทความของเรา Google อาจเพิ่มคะแนน SEO ของเว็บไซต์ให้มากขึ้น และทำให้เว็บไซต์ติดอยู่ในหน้าแรกๆ สามารรถเพิ่มยอดเข้าชมได้มากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของ AI Writer ที่เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ไม่ได้
หากจะบอกว่า AI Writer จะมาแทนที่อาชีพนักเขียนหรือไม่? คงต้องบอกได้เลยว่าไม่ได้แน่นอน เพราะแม้ภายในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบ AI ให้สามารถทำลายขีดข้อจำกัดในเรื่องภาษา หรือคลังข้อมูลได้ แต่สิ่งที่ AI ไม่มีแต่มนุษย์มีอยู่นั้นคือประสบการณ์ ความรู้สึก และความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น AI Writer จึงยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเอาชนะแรงงานมนุษย์ได้ ดังนี้
ความหลากหลายในการใช้ภาษา
ในปัจจุบันยังไม่มี AI รูปแบบไหนทำลายกำแพงแห่งภาษาได้ เพราะบนโลกที่มีประชากรกว่า 7,800 ล้านคน อาศัยอยู่ทั้งใน 7 ทวีป 195 ประเทศ ต่างคน ต่างวัฒนธรรม และการใช้ภาษาก็แตกต่างกันไป การพัฒนาระบบ AI ให้สามารถรองรับการใช้งานของภาษาได้ครบทุกภาษาจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เพราะภาษาแต่ละภาษานั้นมีการแปลความหมายในรูปแบบเฉพาะ แม้จะทำเป็นภาษาอังกฤษแล้วนำมาแปลภาษา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแปลได้ตรงตัว และเป็นธรรมชาติในรูปแบบการเขียนบทความอย่างมีคุณภาพ
ประสบการณ์
แม้ AI จะมีคลังข้อมูลที่นับไม่ถ้วนเกินกว่าสมองมนุษย์จะจดจำได้ แต่การเขียนบทความที่ดีไม่ได้เป็นเรื่องของการใช้ข้อเท็จจริงมาอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจเพียงเท่านั้น เพราะการเขียนบทความที่ดี คือการเล่าเรื่องในรูปแบบ Story Telling ที่ทำให้คอนเทนต์ที่เขียนดูมีเสน่ห์ และน่าสนใจ
ไม่มีความรู้สึก
หากการเขียนคอนเทนต์คือการอธิบายองค์ความรู้ หรือข้อเท็จจริงให้ผู้อ่านเข้าใจ คอนเทนต์นั้นๆ คงไม่ต่างอะไรจากหนังสือเรียนแสนน่าเบื่อที่อ่านแล้วชวนง่วง ดังนั้น คุณสมบัติในการเล่าเรื่องโดยใช้ความรู้สึก การวิเคราะห์ด้วยเหตุผลของความเป็นมนุษย์ หรือการพรรณาชุดคำให้ลึกซึ้งเป็นเรื่องที่ AI Writer ไม่มีทางทำได้
ความคิดสร้างสรรค์
สิ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพราะมนุษย์นั้นมีความคิดสร้างสรรค์ หรือจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด แม้ AI จะช่วยในการเขียนให้ถูกหลักภาษา แกรมม่า หรือโครงสร้างคำที่ถูกต้องได้ แต่การเขียนบทความให้มีความแตกต่างนั้น จำเป็นต้องพึ่งพาคุณสมบัติในการคิดอย่างสร้างสรรค์ และจินตนาการ เพื่อที่จะทำให้คอนเทนต์ หรือบทความที่ออกมานั้นไม่เหมือนใคร สามารถสร้างจุดเปลี่ยนชีวิต และพัฒนาองค์ความรู้ให้กับผู้อ่านได้
ยังไม่เข้าถึงภาษาไทยเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับใครที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงอาจจะไม่ชอบใจการใช้ AI Writer มากนัก เพราะโปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความในปัจจุบันนั้น ยังไม่สามารถรองรับภาษาไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมากพอที่จะสร้างคอนเทนต์ให้มีคุณภาพได้ โดยความลื่นไหลทางภาษาที่อาจทำให้บทความดูไม่น่าอ่าน และไม่น่าสนใจ
สรุป
โดยโปรแกรม AI เขียนบทความนั้นมีมากมายให้ได้เลือกใช้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Chat GPT, Rytr, Writesonic, Frase.io, Copy.AI, Jasper หรือ YouChat เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า AI Writer หรือ AI ช่วยเขียนบทความนั้นมีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างไอเดียคอนเทนต์ ช่วยเขียนบทความ คิดแคปชั่น หรือช่วยแปลภาษา หรือสามารถเขียนคอนเทนต์ในรูปแบบ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดบางอย่างที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากพอในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาที่ไม่สามารถรองรับได้ทุกภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย หรือการที่ AI Writer นั้นไม่ได้มีความรู้สึก ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้เทียบเท่ามนุษย์
CR :: https://minimicegroup.co.th/ai-writer/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น