Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ตรรกะของแม่

 นิทาน เรื่อง ตรรกะของแม่


ตอนวัยรุ่น  มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ผลสอบของผมออกมาไม่ค่อยดี  กลับถึงบ้าน  เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง  แม่ตะโกนเรียกให้ออกไปกินข้าว  ผมนิ่งไม่ตอบ  แม่ก็ทำงานไปพร้อมบ่นพึมพำให้ได้ยินว่า  


"หกล้มเวลาเดินไม่เป็นไร ที่สำคัญคืออย่าได้งอแง ไม่ยอมลุกขึ้นมา"


หลังได้ยินเสียงบ่นของแม่  ผมอดไม่ได้ที่ต้องอมยิ้มให้กับตัวเอง  หกล้มแล้วถ้าไม่ยอมอิดออดนั่งกองอยู่บนพื้นสักพัก  คงไม่ใช่สไตล์ผม😅


หลังจากเข้าทำงาน  มักจะเจอเหตุการณ์ที่รู้สึกไม่ค่อยแฟร์กับผม  มีอยู่ครั้งหนึ่ง  หัวหน้าเชื่อคำใส่ร้ายในตัวผมจากคนอื่น  คิดว่าผมไม่พอใจในตัวแก  ช่วงนั้นรู้สึกได้เลยว่า  งานการหาความราบรื่นไม่ได้เลย  


แม่บอกผมว่า  


"ทุกคนมีตาชั่งอยู่ในใจ  ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน  สักวัน  คุณค่าที่แท้จริงจะปรากฏ"


จริงดั่งที่แม่พูดไว้  หลังจากนั้นไม่นาน  หัวหน้าพูดกับผมว่า  "มีเรื่องเข้าใจผิดอยู่นิดหน่อย  อย่าได้ถือสา  สบายใจได้"  


กลับบ้านเล่าให้แม่ฟัง  แม่ตอบด้วยรอยยิ้มว่า 


"ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน  คนบริสุทธิ์ตกน้ำไม่ไหล  ตกไฟไม่ไหม้"

  

หลังแต่งงาน บ้านช่องไม่มีของตัวเอง  ชีวิตครอบครัวค่อนข้างลำบาก  บ่นให้แม่ฟัง  แม่บอกผมว่า  


"ไม่ต้องกังวล  ยากจนตอนอายุยังน้อย ไม่ถือว่าจน  สู้ต่อไป  วันคืนดีๆ จะค่อยๆ ตกผลึกออกมาเอง" 


ด้วยกำลังใจจากแม่ที่ให้ไว้  ผมกับภรรยามุ่งมั่นสู้ชีวิตแบบมีเป้าหมาย  หลังจากนั้นไม่กี่ปี ชีวิตก็ค่อยๆ ดีขึ้น   

แต่ผมยังไม่พอใจ บ่นให้แม่ฟังอีก  แม่บอกผมว่า


"เกิดเป็นคนอย่าได้ริเป็นคนโลภมาก  เมื่อตัวเราอยู่ท่ามกลางความสุขแล้ว   ก็ยังเสาะแสวงหาความสุขมาเพิ่ม ไม่รู้จักพอ เกรงว่าคนแบบนี้ จะหาความสงบสุขไม่ได้เลยตลอดชีวิต  จงเข้าใจว่า  ความสุขที่แท้จริงมันมาจากใจเราเป็นตัวกำหนด  อย่าเน้นแต่ด้านวัตถุ จำไว้ให้ดี  ถ้าใจเป็นสุขแล้วทุกอย่างก็จะสุขเอง”


ถ้าวันไหนไม่มีความสุข  คิ้วผูกโบว์จนแม่เห็นได้ชัด  

แม่จะบอกว่า  


"ความสุขนั้นมันเป็นโรคติดต่อ  ถ้าลูกมีความสุข  คนรอบข้างก็จะสุขไปด้วย" 


เวลาเจอปัญหาหรืออุปสรรค  แม่จะบอกว่า 


"หกล้มที่ไหน  ก็ให้ลุกขึ้นจากตรงนั้น" 


เมื่อเวลาที่ผมมีความสุขอย่างล้นหลาม  แม่จะเบรคผมว่า  


"อย่าเหลิงอย่าดีใจจนเกินเหตุ  จำไว้ให้แม่น  น้ำเต็มแล้วมันก็จะล้น"


ก่อนซื้อบ้าน  ผมมีเงินเก็บค่อนข้างใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง  บังเอิญเพื่อนคนหนึ่งมารู้เข้า  เลยจะมาขอยืมเงินจากผม  โดยอ้างความจำเป็นสารพัด  ผมจำต้องปฏิเสธ เพราะนี่คือเงินที่ผมและภรรยาเตรียมไว้จ่ายค่าดาวน์บ้าน  สร้างความไม่พอใจกับเพื่อนคนนี้มาก  ผมกลุ้มใจ  บ่นให้แม่ฟัง  แม่เปรยว่า


“เงินทองก็เหมือนกางเกงใน  ทุกคนจำเป็นต้องมี  แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเที่ยวไปอวดใคร”


บ้านเราไม่ได้ร่ำรวย  แต่ผมไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตผมต้องขัดสนอะไรเลย  อะไรที่จำเป็น  แม่จัดหาให้ได้หมด  

แม่เคยสอนผมว่า


“เงินทองต้องรู้จักอดออม  แต่ถ้าสิ่งไหนจำเป็นต้องใช้เงิน ก็จงใช้ไป  แต่ต้องใช้อย่างมีสติและเหมาะสม  เราจะไม่ตระหนี่จนเกินเหตุ  ไม่เช่นนั้นเราจะกลายเป็นแต่คนเฝ้าทรัพย์  ชีวิตจะอึดอัดเปล่าๆ”  


มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ผมสามารถทำโปรเจ็คใหม่ให้หน่วยงาน

จนประสบความสำเร็จอย่างสูง  ได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย แม้กระทั่งจากผู้ใหญ่ในองค์กร  ช่วงนั้นรู้สึกได้เลยว่า  ผมจะพูดอะไรทำอะไรก็ดูดีไปหมด  มีแต่ความเกรงใจจากคนรอบข้าง  มีโอกาสก็เลยเล่าให้แม่ฟัง  แม่เตือนผมว่า


“คนที่ประสบความสำเร็จ  แม้จะผายลมคนก็ถือว่ามีเหตุผล แต่ถ้าประสบความล้มเหลวเมื่อไหร่  แม้จะมีเหตุผลแค่ไหน  ก็ล้วนเป็นการผายลม นี่คือสภาพความเป็นจริงในสังคม   อย่าได้ผยองในวันที่ใช่   และก็ไม่ต้องหดหู่ในวันเส็งเคร็ง”


แม่เป็นแม่บ้านที่แสนธรรมดาคนหนึ่ง  การศึกษาก็ไม่ได้สูง  แต่มีหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยตรรกะในการดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย ที่เข้าถึงได้จริง


จากดวงตาของแม่ จากหัวใจของแม่  ผมมักจะสามารถค้นหาเหตุและผล สำหรับการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง ตั้งแต่เล็กจนโต  การวางตัวของผม  การบริหารจัดการปัญหาของผม  ความมุ่งมั่นและความมีสติ  ล้วนมาจากตรรกะ

ในการดำรงชีวิตของแม่ล้วนๆ


หลังปรึกษากับภรรยาแล้ว  ล่าสุดผมกลับบ้าน แล้วเชิญชวนแม่ให้ย้ายไปอยู่กับเรา  แม่ไม่ยอมรับคำเชื้อเชิญ  แค่บอกว่า 


“แม่แก่แล้ว  ไม่อยากหาเรื่องวุ่นวายให้ลูกๆ  แม่อยู่ของแม่แบบนี้แหละ สบายใจดี ลูกจงไปใช้ชีวิตในแบบฉบับที่ลูกต้องการเถอะ  ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ามีอะไรที่แม่ต้องการความช่วยเหลือ  แม่ก็จะบอกเอง  ขอบใจน้ำใจของลูกมากๆ”


ผมไม่ทราบว่า..จะหาคำไหนมาบรรยายความรัก และความผูกพันที่ผมมีต่อแม่  ผมไม่กล้าคุยโม้ ว่าผมมีแม่ที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนในใจผม  แค่สัมผัสได้ว่า  ท่ามกลางการสั่งสอนในแบบฉบับที่เรียบง่ายของแม่  ผมเติบโตขึ้นมาในแบบที่มีแต่ความสุขและความสบายใจ  ไม่เคยมีแรงกดดันจากแม่เลยก็ว่าได้  


ผมคงต้องหาโอกาสบอกแม่สักครั้งว่า


“ผมขอเกิดเป็นลูกแม่อีกหลายๆชาตินะครับ”



Facebook:ห้องสมุดฟลิ้นท์

“ขจรศักดิ์”

แปลและเรียบเรียง

Credit: 網絡文章


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น